id
stringlengths 24
24
| context
stringlengths 154
2.89k
| question
stringlengths 11
161
| answers
sequence |
---|---|---|---|
56de0f6a4396321400ee257f | ไม่นานหลังจากที่ชาวนอร์มันเริ่มเข้ามาในอิตาลี พวกเขาก็เข้าไปในจักรวรรดิไบแซนไทน์ แล้วตามด้วยอเมริกา โดยสู้รบกับชาวเพเชเน็ก ชาวบัลการ์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชาว เซลจุกเติร์ก ทหารรับจ้างชาวนอร์มันได้รับการสนับสนุนจากชาวลอมบาร์ดให้ไปที่ภาคใต้ก่อนเพื่อต่อต้านชาวไบแซนไทน์ แต่ไม่นานพวกเขาก็เข้าร่วมกับกองกำลังของไบแซนไทน์ในซิซิลี พวกเขาเป็นคนสำคัญที่เคียงข้างชาววารันเจียนและชาวลอมบาร์ดในศึกที่ซิซิลี ของจอร์จ มาเนียส ในปี 1038-40 มีการถกเถียงกันว่าแท้จริงแล้วชาวนอร์มันในกองทัพกรีกมาจากอิตาลีหรือไม่ และปัจจุบันนี้ดูเหมือนว่ามีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่มาจากที่นั่น นอกจากนี้ยังไม่มีใครรู้ด้วยว่ามี “ชาวแฟรงก์” (อย่างที่ชาวไบแซนไทน์เรียก) กี่คนที่เป็นชาวนอร์มันและไม่ใช่ชาวฝรั่งเศสเชื้อสายอื่น | ใครคือศัตรูสำคัญในอิตาลีของชาว Norman จักรวรรดิไบแซนไทน์หรืออาร์เมเนีย | {
"text": [
"เซลจุกเติร์ก"
],
"answer_start": [
159
]
} |
56de10b44396321400ee2593 | ชาวนอร์มันบางคนเข้าร่วมกับ กองกำลังชาวเติร์ก เพื่อช่วยทำลายแซสซันซึ่งเป็นรัฐประเทศราชของอาร์เมเนียและทารอนซึ่งอยู่ทางตะวันออกไกลของอานาโตเลีย หลังจากนั้น ชาวนอร์มันจำนวนมากก็เข้าร่วมกับกองทัพของอาร์เมเนีย ซึ่งอยู่ห่างออกไปทางตอนใต้ของซิลิเซีย และในเทือกเขาทอรัส ชาวนอร์มันคนหนึ่งชื่อว่า อูร์เซล นำกองทัพ “ชาวแฟรงก์” ไปสู่หุบเขายูเฟรติสตอนบนในซีเรียเหนือ ตั้งแต่ปี 1073 ถึง 1074 กองกำลังทหาร 8,000 คนจาก 20,000 คนของนายพลฟิลาเรตุส บราคามิอุส แห่งอาร์เมเนียเป็นชาวนอร์มัน (เดิมทีเป็นกองกำลังของอูร์เซล ภายใต้การนำของเรมโบด์) พวกเขาทำแม้กระทั่งใช้ชื่อเชื้อชาติในการตั้งชื่อปราสาท อาฟรานจี แปลว่า "ชาวแฟรงก์" ข้อแลกเปลี่ยนระหว่างอามาลฟีกับอันทิออค และระหว่างบารีกับทาร์ซุส ซึ่งเป็นที่ทราบกันดี อาจมีความเกี่ยวข้องกับการที่ชาวอิตาโล-นอร์มันปรากฏตัวในเมืองเหล่านั้น ในขณะที่อามาลฟีและบารีอยู่ภายใต้การปกครองของชาวนอร์มันในอิตาลี | ปราสาทของชาวนอร์มันมีชื่อว่าอะไร | {
"text": [
"อาฟรานจี"
],
"answer_start": [
581
]
} |
56de10b44396321400ee2594 | ชาวนอร์มันบางคนเข้าร่วมกับ กองกำลังชาวเติร์ก เพื่อช่วยทำลายแซสซันซึ่งเป็นรัฐประเทศราชของอาร์เมเนียและทารอนซึ่งอยู่ทางตะวันออกไกลของอานาโตเลีย หลังจากนั้น ชาวนอร์มันจำนวนมากก็เข้าร่วมกับกองทัพของอาร์เมเนีย ซึ่งอยู่ห่างออกไปทางตอนใต้ของซิลิเซีย และในเทือกเขาทอรัส ชาวนอร์มันคนหนึ่งชื่อว่า อูร์เซล นำกองทัพ “ชาวแฟรงก์” ไปสู่หุบเขายูเฟรติสตอนบนในซีเรียเหนือ ตั้งแต่ปี 1073 ถึง 1074 กองกำลังทหาร 8,000 คนจาก 20,000 คนของนายพลฟิลาเรตุส บราคามิอุส แห่งอาร์เมเนียเป็นชาวนอร์มัน (เดิมทีเป็นกองกำลังของอูร์เซล ภายใต้การนำของเรมโบด์) พวกเขาทำแม้กระทั่งใช้ชื่อเชื้อชาติในการตั้งชื่อปราสาท อาฟรานจี แปลว่า "ชาวแฟรงก์" ข้อแลกเปลี่ยนระหว่างอามาลฟีกับอันทิออค และระหว่างบารีกับทาร์ซุส ซึ่งเป็นที่ทราบกันดี อาจมีความเกี่ยวข้องกับการที่ชาวอิตาโล-นอร์มันปรากฏตัวในเมืองเหล่านั้น ในขณะที่อามาลฟีและบารีอยู่ภายใต้การปกครองของชาวนอร์มันในอิตาลี | ใครคือผู้นำตอนที่ชาวแฟรงก์เข้าไปในหุบเขายูเฟรติส | {
"text": [
"อูร์เซล"
],
"answer_start": [
289
]
} |
56de10b44396321400ee2595 | ชาวนอร์มันบางคนเข้าร่วมกับ กองกำลังชาวเติร์ก เพื่อช่วยทำลายแซสซันซึ่งเป็นรัฐประเทศราชของอาร์เมเนียและทารอนซึ่งอยู่ทางตะวันออกไกลของอานาโตเลีย หลังจากนั้น ชาวนอร์มันจำนวนมากก็เข้าร่วมกับกองทัพของอาร์เมเนีย ซึ่งอยู่ห่างออกไปทางตอนใต้ของซิลิเซีย และในเทือกเขาทอรัส ชาวนอร์มันคนหนึ่งชื่อว่า อูร์เซล นำกองทัพ “ชาวแฟรงก์” ไปสู่หุบเขายูเฟรติสตอนบนในซีเรียเหนือ ตั้งแต่ปี 1073 ถึง 1074 กองกำลังทหาร 8,000 คนจาก 20,000 คนของนายพลฟิลาเรตุส บราคามิอุส แห่งอาร์เมเนียเป็นชาวนอร์มัน (เดิมทีเป็นกองกำลังของอูร์เซล ภายใต้การนำของเรมโบด์) พวกเขาทำแม้กระทั่งใช้ชื่อเชื้อชาติในการตั้งชื่อปราสาท อาฟรานจี แปลว่า "ชาวแฟรงก์" ข้อแลกเปลี่ยนระหว่างอามาลฟีกับอันทิออค และระหว่างบารีกับทาร์ซุส ซึ่งเป็นที่ทราบกันดี อาจมีความเกี่ยวข้องกับการที่ชาวอิตาโล-นอร์มันปรากฏตัวในเมืองเหล่านั้น ในขณะที่อามาลฟีและบารีอยู่ภายใต้การปกครองของชาวนอร์มันในอิตาลี | ชาวนอร์มันเข้าร่วมกับใครในอานาโตเลีย | {
"text": [
"กองกำลังชาวเติร์ก"
],
"answer_start": [
27
]
} |
56de49564396321400ee277a | ระหว่างปี 1402 และ 1405 การเดินทางสู้รบซึ่งนำโดยฌ็อง เดอ เบอเทนกูร์ ซึ่งเป็นขุนนางชาว นอร์มัน และ ปัวเตอวีน กาดิเฟร์ เดอ ลา ซาล สามารถพิชิตเกาะลันซารอเต เกาะฟัวร์เตเวนตูรา และเกาะเอลเอียร์โรแห่งหมู่เกาะคานารี ซึ่งอยู่ใกล้กับชายฝั่งแอตแลนติกของ ทวีปแอฟริกา มาได้ กองกำลังของพวกเขารวมตัวกันในนอร์ม็องดีและกัสโคนีและได้รับการเสริมกำลังจากอาณานิคมของคาสตีลในภายหลัง | หมู่เกาะคานารีอยู่ใกล้ชายฝั่งของทวีปใด | {
"text": [
"ทวีปแอฟริกา"
],
"answer_start": [
244
]
} |
56dfa0d84a1a83140091ebb7 | เทสลา โด่งดังจากความสำเร็จและ ลูกเล่นในการอวดฝีมือ ของเขา และนั่นทำให้เขามีชื่อเสียงในวัฒนธรรมสมัยนิยมในฐานะ “นักวิทยาศาสตร์สติเฟื่อง” ผู้มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร สิทธิบัตร ของเขาทำเงินให้เขามากพอสมควร และเขานำเงินส่วนใหญ่ที่ได้ไปใช้เป็นทุนในโครงการของเขาเองซึ่งมีระดับความสำเร็จที่หลากหลาย: 121,154 เขาใช้ชีวิตส่วนใหญ่ตลอดการเกษียณอยู่ใน โรงแรมต่าง ๆ ในนิวยอร์ก เทสลา เสียชีวิตในวันที่ 7 มกราคม ปี 1943 หลังจากที่เขาเสียชีวิต ผลงานของเขาก็ไม่เป็นที่รู้จัก แต่ในปี 1960 การประชุมทั่วไปเกี่ยวกับระบบน้ำหนักและการชั่งตวงวัด ตั้งชื่อ หน่วยเอสไอของความหนาแน่นฟลักซ์แม่เหล็ก ว่าเทสลาเพื่อเป็นเกียรติแก่เขา ผู้คนกลับมาสนใจในตัวเทสลาอีกครั้งในยุค 1990 | เทสลาเสียชีวิตในปีใด | {
"text": [
"1943"
],
"answer_start": [
399
]
} |
56dfa0d84a1a83140091ebb8 | เทสลา โด่งดังจากความสำเร็จและ ลูกเล่นในการอวดฝีมือ ของเขา และนั่นทำให้เขามีชื่อเสียงในวัฒนธรรมสมัยนิยมในฐานะ “นักวิทยาศาสตร์สติเฟื่อง” ผู้มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร สิทธิบัตร ของเขาทำเงินให้เขามากพอสมควร และเขานำเงินส่วนใหญ่ที่ได้ไปใช้เป็นทุนในโครงการของเขาเองซึ่งมีระดับความสำเร็จที่หลากหลาย: 121,154 เขาใช้ชีวิตส่วนใหญ่ตลอดการเกษียณอยู่ใน โรงแรมต่าง ๆ ในนิวยอร์ก เทสลา เสียชีวิตในวันที่ 7 มกราคม ปี 1943 หลังจากที่เขาเสียชีวิต ผลงานของเขาก็ไม่เป็นที่รู้จัก แต่ในปี 1960 การประชุมทั่วไปเกี่ยวกับระบบน้ำหนักและการชั่งตวงวัด ตั้งชื่อ หน่วยเอสไอของความหนาแน่นฟลักซ์แม่เหล็ก ว่าเทสลาเพื่อเป็นเกียรติแก่เขา ผู้คนกลับมาสนใจในตัวเทสลาอีกครั้งในยุค 1990 | อะไรได้รับการตั้งชื่อตามเทสลาเพื่อเป็นเกียรติแก่เขา | {
"text": [
"หน่วยเอสไอของความหนาแน่นฟลักซ์แม่เหล็ก"
],
"answer_start": [
532
]
} |
56dfa0d84a1a83140091ebb9 | เทสลา โด่งดังจากความสำเร็จและ ลูกเล่นในการอวดฝีมือ ของเขา และนั่นทำให้เขามีชื่อเสียงในวัฒนธรรมสมัยนิยมในฐานะ “นักวิทยาศาสตร์สติเฟื่อง” ผู้มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร สิทธิบัตร ของเขาทำเงินให้เขามากพอสมควร และเขานำเงินส่วนใหญ่ที่ได้ไปใช้เป็นทุนในโครงการของเขาเองซึ่งมีระดับความสำเร็จที่หลากหลาย: 121,154 เขาใช้ชีวิตส่วนใหญ่ตลอดการเกษียณอยู่ใน โรงแรมต่าง ๆ ในนิวยอร์ก เทสลา เสียชีวิตในวันที่ 7 มกราคม ปี 1943 หลังจากที่เขาเสียชีวิต ผลงานของเขาก็ไม่เป็นที่รู้จัก แต่ในปี 1960 การประชุมทั่วไปเกี่ยวกับระบบน้ำหนักและการชั่งตวงวัด ตั้งชื่อ หน่วยเอสไอของความหนาแน่นฟลักซ์แม่เหล็ก ว่าเทสลาเพื่อเป็นเกียรติแก่เขา ผู้คนกลับมาสนใจในตัวเทสลาอีกครั้งในยุค 1990 | เทสลาใช้ชีวิตอยู่ที่ใดมากที่สุด | {
"text": [
"โรงแรมต่าง ๆ ในนิวยอร์ก"
],
"answer_start": [
339
]
} |
56dfa0d84a1a83140091ebba | เทสลา โด่งดังจากความสำเร็จและ ลูกเล่นในการอวดฝีมือ ของเขา และนั่นทำให้เขามีชื่อเสียงในวัฒนธรรมสมัยนิยมในฐานะ “นักวิทยาศาสตร์สติเฟื่อง” ผู้มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร สิทธิบัตร ของเขาทำเงินให้เขามากพอสมควร และเขานำเงินส่วนใหญ่ที่ได้ไปใช้เป็นทุนในโครงการของเขาเองซึ่งมีระดับความสำเร็จที่หลากหลาย: 121,154 เขาใช้ชีวิตส่วนใหญ่ตลอดการเกษียณอยู่ใน โรงแรมต่าง ๆ ในนิวยอร์ก เทสลา เสียชีวิตในวันที่ 7 มกราคม ปี 1943 หลังจากที่เขาเสียชีวิต ผลงานของเขาก็ไม่เป็นที่รู้จัก แต่ในปี 1960 การประชุมทั่วไปเกี่ยวกับระบบน้ำหนักและการชั่งตวงวัด ตั้งชื่อ หน่วยเอสไอของความหนาแน่นฟลักซ์แม่เหล็ก ว่าเทสลาเพื่อเป็นเกียรติแก่เขา ผู้คนกลับมาสนใจในตัวเทสลาอีกครั้งในยุค 1990 | เทสลามีชื่อเสียงในวัฒนธรรมสมัยนิยมในฐานะอะไร | {
"text": [
"นักวิทยาศาสตร์สติเฟื่อง"
],
"answer_start": [
110
]
} |
56e0bb9f7aa994140058e6cb | เทสลา โด่งดังจากความสำเร็จและ ลูกเล่นในการอวดฝีมือ ของเขา และนั่นทำให้เขามีชื่อเสียงในวัฒนธรรมสมัยนิยมในฐานะ “นักวิทยาศาสตร์สติเฟื่อง” ผู้มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร สิทธิบัตร ของเขาทำเงินให้เขามากพอสมควร และเขานำเงินส่วนใหญ่ที่ได้ไปใช้เป็นทุนในโครงการของเขาเองซึ่งมีระดับความสำเร็จที่หลากหลาย: 121,154 เขาใช้ชีวิตส่วนใหญ่ตลอดการเกษียณอยู่ใน โรงแรมต่าง ๆ ในนิวยอร์ก เทสลา เสียชีวิตในวันที่ 7 มกราคม ปี 1943 หลังจากที่เขาเสียชีวิต ผลงานของเขาก็ไม่เป็นที่รู้จัก แต่ในปี 1960 การประชุมทั่วไปเกี่ยวกับระบบน้ำหนักและการชั่งตวงวัด ตั้งชื่อ หน่วยเอสไอของความหนาแน่นฟลักซ์แม่เหล็ก ว่าเทสลาเพื่อเป็นเกียรติแก่เขา ผู้คนกลับมาสนใจในตัวเทสลาอีกครั้งในยุค 1990 | เทสลาหาทุนอย่างไรในการสร้างผลงานของเขา | {
"text": [
"สิทธิบัตร"
],
"answer_start": [
163
]
} |
56e0bb9f7aa994140058e6cc | เทสลา โด่งดังจากความสำเร็จและ ลูกเล่นในการอวดฝีมือ ของเขา และนั่นทำให้เขามีชื่อเสียงในวัฒนธรรมสมัยนิยมในฐานะ “นักวิทยาศาสตร์สติเฟื่อง” ผู้มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร สิทธิบัตร ของเขาทำเงินให้เขามากพอสมควร และเขานำเงินส่วนใหญ่ที่ได้ไปใช้เป็นทุนในโครงการของเขาเองซึ่งมีระดับความสำเร็จที่หลากหลาย: 121,154 เขาใช้ชีวิตส่วนใหญ่ตลอดการเกษียณอยู่ใน โรงแรมต่าง ๆ ในนิวยอร์ก เทสลา เสียชีวิตในวันที่ 7 มกราคม ปี 1943 หลังจากที่เขาเสียชีวิต ผลงานของเขาก็ไม่เป็นที่รู้จัก แต่ในปี 1960 การประชุมทั่วไปเกี่ยวกับระบบน้ำหนักและการชั่งตวงวัด ตั้งชื่อ หน่วยเอสไอของความหนาแน่นฟลักซ์แม่เหล็ก ว่าเทสลาเพื่อเป็นเกียรติแก่เขา ผู้คนกลับมาสนใจในตัวเทสลาอีกครั้งในยุค 1990 | เทสลาเสียชีวิตในปีใด | {
"text": [
"1943"
],
"answer_start": [
399
]
} |
56e0bb9f7aa994140058e6cd | เทสลา โด่งดังจากความสำเร็จและ ลูกเล่นในการอวดฝีมือ ของเขา และนั่นทำให้เขามีชื่อเสียงในวัฒนธรรมสมัยนิยมในฐานะ “นักวิทยาศาสตร์สติเฟื่อง” ผู้มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร สิทธิบัตร ของเขาทำเงินให้เขามากพอสมควร และเขานำเงินส่วนใหญ่ที่ได้ไปใช้เป็นทุนในโครงการของเขาเองซึ่งมีระดับความสำเร็จที่หลากหลาย: 121,154 เขาใช้ชีวิตส่วนใหญ่ตลอดการเกษียณอยู่ใน โรงแรมต่าง ๆ ในนิวยอร์ก เทสลา เสียชีวิตในวันที่ 7 มกราคม ปี 1943 หลังจากที่เขาเสียชีวิต ผลงานของเขาก็ไม่เป็นที่รู้จัก แต่ในปี 1960 การประชุมทั่วไปเกี่ยวกับระบบน้ำหนักและการชั่งตวงวัด ตั้งชื่อ หน่วยเอสไอของความหนาแน่นฟลักซ์แม่เหล็ก ว่าเทสลาเพื่อเป็นเกียรติแก่เขา ผู้คนกลับมาสนใจในตัวเทสลาอีกครั้งในยุค 1990 | ในการประชุมทั่วไปเกี่ยวกับระบบน้ำหนักและการชั่งตวงวัดในปี 1960 มีการตั้งชื่อสิ่งใดตามชื่อ เทสลา | {
"text": [
"หน่วยเอสไอของความหนาแน่นฟลักซ์แม่เหล็ก"
],
"answer_start": [
532
]
} |
56e0bb9f7aa994140058e6ce | เทสลา โด่งดังจากความสำเร็จและ ลูกเล่นในการอวดฝีมือ ของเขา และนั่นทำให้เขามีชื่อเสียงในวัฒนธรรมสมัยนิยมในฐานะ “นักวิทยาศาสตร์สติเฟื่อง” ผู้มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร สิทธิบัตร ของเขาทำเงินให้เขามากพอสมควร และเขานำเงินส่วนใหญ่ที่ได้ไปใช้เป็นทุนในโครงการของเขาเองซึ่งมีระดับความสำเร็จที่หลากหลาย: 121,154 เขาใช้ชีวิตส่วนใหญ่ตลอดการเกษียณอยู่ใน โรงแรมต่าง ๆ ในนิวยอร์ก เทสลา เสียชีวิตในวันที่ 7 มกราคม ปี 1943 หลังจากที่เขาเสียชีวิต ผลงานของเขาก็ไม่เป็นที่รู้จัก แต่ในปี 1960 การประชุมทั่วไปเกี่ยวกับระบบน้ำหนักและการชั่งตวงวัด ตั้งชื่อ หน่วยเอสไอของความหนาแน่นฟลักซ์แม่เหล็ก ว่าเทสลาเพื่อเป็นเกียรติแก่เขา ผู้คนกลับมาสนใจในตัวเทสลาอีกครั้งในยุค 1990 | ผู้คนเริ่มสนใจในเทสลาอีกครั้งเมื่อใด | {
"text": [
"1990"
],
"answer_start": [
641
]
} |
56e0bb9f7aa994140058e6cf | เทสลา โด่งดังจากความสำเร็จและ ลูกเล่นในการอวดฝีมือ ของเขา และนั่นทำให้เขามีชื่อเสียงในวัฒนธรรมสมัยนิยมในฐานะ “นักวิทยาศาสตร์สติเฟื่อง” ผู้มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร สิทธิบัตร ของเขาทำเงินให้เขามากพอสมควร และเขานำเงินส่วนใหญ่ที่ได้ไปใช้เป็นทุนในโครงการของเขาเองซึ่งมีระดับความสำเร็จที่หลากหลาย: 121,154 เขาใช้ชีวิตส่วนใหญ่ตลอดการเกษียณอยู่ใน โรงแรมต่าง ๆ ในนิวยอร์ก เทสลา เสียชีวิตในวันที่ 7 มกราคม ปี 1943 หลังจากที่เขาเสียชีวิต ผลงานของเขาก็ไม่เป็นที่รู้จัก แต่ในปี 1960 การประชุมทั่วไปเกี่ยวกับระบบน้ำหนักและการชั่งตวงวัด ตั้งชื่อ หน่วยเอสไอของความหนาแน่นฟลักซ์แม่เหล็ก ว่าเทสลาเพื่อเป็นเกียรติแก่เขา ผู้คนกลับมาสนใจในตัวเทสลาอีกครั้งในยุค 1990 | นอกเหนือจากความสำเร็จด้านวิทยาศาสตร์แล้ว เทสลายังมีชื่อเสียงในด้านใด | {
"text": [
"ลูกเล่นในการอวดฝีมือ"
],
"answer_start": [
30
]
} |
56dfb5777aa994140058e021 | หลังออกจากบริษัทของเอดิสัน เทสลา ก็ร่วมหุ้นกับนักธุรกิจสองคนในปี 1886 คือ โรเบิร์ต เลน และเบนจามิน เวล ทั้งสองคนตกลงจะสนับสนุนเงินทุนแก่บริษัทผลิตหลอดไฟฟ้าในนามของเทสลา ซึ่งมีชื่อว่า เทสลาอิเล็กทริกไลต์แอนด์แมนูแฟคเจอริง บริษัทนี้ ติดตั้ง ระบบส่องสว่างโดยใช้แสงจากการอาร์กไฟฟ้า ซึ่งออกแบบโดย เทสลา และนอกจากนี้ยังออกแบบไดนาโมเปลี่ยนกระแสไฟฟ้าอีกด้วย มีการออก สิทธิบัตร ใบแรกให้แก่เทสลาในสหรัฐอเมริกา | เทสลาร่วมหุ้นกับใครในปี 1886 | {
"text": [
"โรเบิร์ต เลน และเบนจามิน เวล"
],
"answer_start": [
74
]
} |
56dfb5777aa994140058e022 | หลังออกจากบริษัทของเอดิสัน เทสลา ก็ร่วมหุ้นกับนักธุรกิจสองคนในปี 1886 คือ โรเบิร์ต เลน และเบนจามิน เวล ทั้งสองคนตกลงจะสนับสนุนเงินทุนแก่บริษัทผลิตหลอดไฟฟ้าในนามของเทสลา ซึ่งมีชื่อว่า เทสลาอิเล็กทริกไลต์แอนด์แมนูแฟคเจอริง บริษัทนี้ ติดตั้ง ระบบส่องสว่างโดยใช้แสงจากการอาร์กไฟฟ้า ซึ่งออกแบบโดย เทสลา และนอกจากนี้ยังออกแบบไดนาโมเปลี่ยนกระแสไฟฟ้าอีกด้วย มีการออก สิทธิบัตร ใบแรกให้แก่เทสลาในสหรัฐอเมริกา | เลนและเวลสนับสนุนเงินทุนแก่อะไร | {
"text": [
"เทสลาอิเล็กทริกไลต์แอนด์แมนูแฟคเจอริง"
],
"answer_start": [
183
]
} |
56dfb5777aa994140058e023 | หลังออกจากบริษัทของเอดิสัน เทสลา ก็ร่วมหุ้นกับนักธุรกิจสองคนในปี 1886 คือ โรเบิร์ต เลน และเบนจามิน เวล ทั้งสองคนตกลงจะสนับสนุนเงินทุนแก่บริษัทผลิตหลอดไฟฟ้าในนามของเทสลา ซึ่งมีชื่อว่า เทสลาอิเล็กทริกไลต์แอนด์แมนูแฟคเจอริง บริษัทนี้ ติดตั้ง ระบบส่องสว่างโดยใช้แสงจากการอาร์กไฟฟ้า ซึ่งออกแบบโดย เทสลา และนอกจากนี้ยังออกแบบไดนาโมเปลี่ยนกระแสไฟฟ้าอีกด้วย มีการออก สิทธิบัตร ใบแรกให้แก่เทสลาในสหรัฐอเมริกา | บริษัท เทสลาเทสลาอิเล็กทริกไลต์แอนด์แมนูแฟคเจอริง ทำอะไร | {
"text": [
"ติดตั้ง ระบบส่องสว่างโดยใช้แสงจากการอาร์กไฟฟ้า ซึ่งออกแบบโดย เทสลา"
],
"answer_start": [
232
]
} |
56dfb5777aa994140058e024 | หลังออกจากบริษัทของเอดิสัน เทสลา ก็ร่วมหุ้นกับนักธุรกิจสองคนในปี 1886 คือ โรเบิร์ต เลน และเบนจามิน เวล ทั้งสองคนตกลงจะสนับสนุนเงินทุนแก่บริษัทผลิตหลอดไฟฟ้าในนามของเทสลา ซึ่งมีชื่อว่า เทสลาอิเล็กทริกไลต์แอนด์แมนูแฟคเจอริง บริษัทนี้ ติดตั้ง ระบบส่องสว่างโดยใช้แสงจากการอาร์กไฟฟ้า ซึ่งออกแบบโดย เทสลา และนอกจากนี้ยังออกแบบไดนาโมเปลี่ยนกระแสไฟฟ้าอีกด้วย มีการออก สิทธิบัตร ใบแรกให้แก่เทสลาในสหรัฐอเมริกา | เทสลา ได้รับอะไรเป็นครั้งแรกหลังจากเริ่มก่อตั้งบริษัท | {
"text": [
"สิทธิบัตร"
],
"answer_start": [
360
]
} |
56dfb5777aa994140058e025 | หลังออกจากบริษัทของเอดิสัน เทสลา ก็ร่วมหุ้นกับนักธุรกิจสองคนในปี 1886 คือ โรเบิร์ต เลน และเบนจามิน เวล ทั้งสองคนตกลงจะสนับสนุนเงินทุนแก่บริษัทผลิตหลอดไฟฟ้าในนามของเทสลา ซึ่งมีชื่อว่า เทสลาอิเล็กทริกไลต์แอนด์แมนูแฟคเจอริง บริษัทนี้ ติดตั้ง ระบบส่องสว่างโดยใช้แสงจากการอาร์กไฟฟ้า ซึ่งออกแบบโดย เทสลา และนอกจากนี้ยังออกแบบไดนาโมเปลี่ยนกระแสไฟฟ้าอีกด้วย มีการออก สิทธิบัตร ใบแรกให้แก่เทสลาในสหรัฐอเมริกา | บริษัทของเทสลาผลิตอะไร | {
"text": [
"ระบบส่องสว่างโดยใช้แสงจากการอาร์กไฟฟ้า"
],
"answer_start": [
240
]
} |
56e0d6cf231d4119001ac420 | หลังออกจากบริษัทของเอดิสัน เทสลา ก็ร่วมหุ้นกับนักธุรกิจสองคนในปี 1886 คือ โรเบิร์ต เลน และเบนจามิน เวล ทั้งสองคนตกลงจะสนับสนุนเงินทุนแก่บริษัทผลิตหลอดไฟฟ้าในนามของเทสลา ซึ่งมีชื่อว่า เทสลาอิเล็กทริกไลต์แอนด์แมนูแฟคเจอริง บริษัทนี้ ติดตั้ง ระบบส่องสว่างโดยใช้แสงจากการอาร์กไฟฟ้า ซึ่งออกแบบโดย เทสลา และนอกจากนี้ยังออกแบบไดนาโมเปลี่ยนกระแสไฟฟ้าอีกด้วย มีการออก สิทธิบัตร ใบแรกให้แก่เทสลาในสหรัฐอเมริกา | หุ้นส่วนใหม่ของเทสลามีชื่อว่าอะไรบ้าง | {
"text": [
"โรเบิร์ต เลน และเบนจามิน เวล"
],
"answer_start": [
74
]
} |
56e0d6cf231d4119001ac421 | หลังออกจากบริษัทของเอดิสัน เทสลา ก็ร่วมหุ้นกับนักธุรกิจสองคนในปี 1886 คือ โรเบิร์ต เลน และเบนจามิน เวล ทั้งสองคนตกลงจะสนับสนุนเงินทุนแก่บริษัทผลิตหลอดไฟฟ้าในนามของเทสลา ซึ่งมีชื่อว่า เทสลาอิเล็กทริกไลต์แอนด์แมนูแฟคเจอริง บริษัทนี้ ติดตั้ง ระบบส่องสว่างโดยใช้แสงจากการอาร์กไฟฟ้า ซึ่งออกแบบโดย เทสลา และนอกจากนี้ยังออกแบบไดนาโมเปลี่ยนกระแสไฟฟ้าอีกด้วย มีการออก สิทธิบัตร ใบแรกให้แก่เทสลาในสหรัฐอเมริกา | เทสลา เลน และเวล เริ่มเป็นหุ้นส่วนกันเมื่อใด | {
"text": [
"1886"
],
"answer_start": [
65
]
} |
56e0d6cf231d4119001ac422 | หลังออกจากบริษัทของเอดิสัน เทสลา ก็ร่วมหุ้นกับนักธุรกิจสองคนในปี 1886 คือ โรเบิร์ต เลน และเบนจามิน เวล ทั้งสองคนตกลงจะสนับสนุนเงินทุนแก่บริษัทผลิตหลอดไฟฟ้าในนามของเทสลา ซึ่งมีชื่อว่า เทสลาอิเล็กทริกไลต์แอนด์แมนูแฟคเจอริง บริษัทนี้ ติดตั้ง ระบบส่องสว่างโดยใช้แสงจากการอาร์กไฟฟ้า ซึ่งออกแบบโดย เทสลา และนอกจากนี้ยังออกแบบไดนาโมเปลี่ยนกระแสไฟฟ้าอีกด้วย มีการออก สิทธิบัตร ใบแรกให้แก่เทสลาในสหรัฐอเมริกา | บริษัทที่นักธุรกิจทั้งสองสนับสนุนเงินทุนชื่อว่าอะไร | {
"text": [
"เทสลาอิเล็กทริกไลต์แอนด์แมนูแฟคเจอริง"
],
"answer_start": [
183
]
} |
56e0d6cf231d4119001ac423 | หลังออกจากบริษัทของเอดิสัน เทสลา ก็ร่วมหุ้นกับนักธุรกิจสองคนในปี 1886 คือ โรเบิร์ต เลน และเบนจามิน เวล ทั้งสองคนตกลงจะสนับสนุนเงินทุนแก่บริษัทผลิตหลอดไฟฟ้าในนามของเทสลา ซึ่งมีชื่อว่า เทสลาอิเล็กทริกไลต์แอนด์แมนูแฟคเจอริง บริษัทนี้ ติดตั้ง ระบบส่องสว่างโดยใช้แสงจากการอาร์กไฟฟ้า ซึ่งออกแบบโดย เทสลา และนอกจากนี้ยังออกแบบไดนาโมเปลี่ยนกระแสไฟฟ้าอีกด้วย มีการออก สิทธิบัตร ใบแรกให้แก่เทสลาในสหรัฐอเมริกา | บริษัท เทสลาเทสลาอิเล็กทริกไลต์แอนด์แมนูแฟคเจอริง ทำอะไร | {
"text": [
"ติดตั้ง ระบบส่องสว่างโดยใช้แสงจากการอาร์กไฟฟ้า"
],
"answer_start": [
232
]
} |
56e0d6cf231d4119001ac424 | หลังออกจากบริษัทของเอดิสัน เทสลา ก็ร่วมหุ้นกับนักธุรกิจสองคนในปี 1886 คือ โรเบิร์ต เลน และเบนจามิน เวล ทั้งสองคนตกลงจะสนับสนุนเงินทุนแก่บริษัทผลิตหลอดไฟฟ้าในนามของเทสลา ซึ่งมีชื่อว่า เทสลาอิเล็กทริกไลต์แอนด์แมนูแฟคเจอริง บริษัทนี้ ติดตั้ง ระบบส่องสว่างโดยใช้แสงจากการอาร์กไฟฟ้า ซึ่งออกแบบโดย เทสลา และนอกจากนี้ยังออกแบบไดนาโมเปลี่ยนกระแสไฟฟ้าอีกด้วย มีการออก สิทธิบัตร ใบแรกให้แก่เทสลาในสหรัฐอเมริกา | ใครเป็นผู้ออกแบบระบบส่องสว่างโดยใช้แสงจากการอาร์กไฟฟ้าซึ่งบริษัท เทสลาอิเล็กทริกไลต์แอนด์แมนูแฟคเจอริง ติดตั้ง | {
"text": [
"เทสลา"
],
"answer_start": [
27
]
} |
56e0fc3f7aa994140058e877 | ในปี 1900 เทสลาได้รับสิทธิบัตรสำหรับ “ระบบส่งผ่านพลังงานไฟฟ้า” และ “เครื่องส่งผ่านไฟฟ้า” เมื่อ กูลเยลโม มาร์โกนี ส่งสัญญาณคลื่นวิทยุข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกเป็นครั้งแรกในปี 1901 จนโด่งดัง เทสลาก็แขวะว่าเขาทำเช่นนั้นโดยใช้อุปกรณ์ที่เทสลาเป็นเจ้าของสิทธิบัตร 17 ใบ ทว่าแทบไม่มีหลักฐานมารองรับคำกล่าวอ้างนี้เลย นี่คือจุดเริ่มต้นของการรบราเรื่องสิทธิบัตรคลื่นวิทยุซึ่งกินเวลาหลายปี โดยที่สิทธิบัตรของเทสลาได้รับการเชิดชูในปี 1903 ตามด้วยการเปลี่ยนใจมามอบสิทธิบัตรให้มาร์โกนีในปี 1904 ในปี 1943 ศาลสูงสุดของสหรัฐอเมริกา ตัดสินให้สิทธิบัตรก่อนหน้าซึ่งเป็นของเทสลา, โอลิเวอร์ ลอดจ์ และจอห์น สโตน มีผลใช้ได้ดังเดิม ศาลประกาศว่าการตัดสินใจของพวกเขาไม่ได้อ้างอิงคำกล่าวอ้างของมาร์โกนี ที่ว่าเขาเป็นคนแรกที่ประสบความสำเร็จในการส่งสัญญาณคลื่นวิทยุ แต่ตัดสินจากการที่คำกล่าวอ้างของมาร์โกนี ที่ว่าเขาเป็นเจ้าของสิทธิบัตรนั้นเป็นที่น่าสงสัย เขาไม่สามารถอ้างได้ว่ามีการละเมิดสิทธิบัตร (มีการกล่าวอ้างว่าศาลสูงพยายามทำให้การเรียกร้องของบริษัทมาร์โกนี ต่อรัฐบาลสหรัฐฯ เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 1 เป็นโมฆะ ด้วยการทำให้สิทธิบัตรใบก่อนหน้าของเทสลากลับมาใช้ได้เหมือนเดิม) | เทสลาได้รับสิทธิบัตรเครื่องส่งผ่านไฟฟ้าเมื่อใด | {
"text": [
"1900"
],
"answer_start": [
5
]
} |
56e0fc3f7aa994140058e878 | ในปี 1900 เทสลาได้รับสิทธิบัตรสำหรับ “ระบบส่งผ่านพลังงานไฟฟ้า” และ “เครื่องส่งผ่านไฟฟ้า” เมื่อ กูลเยลโม มาร์โกนี ส่งสัญญาณคลื่นวิทยุข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกเป็นครั้งแรกในปี 1901 จนโด่งดัง เทสลาก็แขวะว่าเขาทำเช่นนั้นโดยใช้อุปกรณ์ที่เทสลาเป็นเจ้าของสิทธิบัตร 17 ใบ ทว่าแทบไม่มีหลักฐานมารองรับคำกล่าวอ้างนี้เลย นี่คือจุดเริ่มต้นของการรบราเรื่องสิทธิบัตรคลื่นวิทยุซึ่งกินเวลาหลายปี โดยที่สิทธิบัตรของเทสลาได้รับการเชิดชูในปี 1903 ตามด้วยการเปลี่ยนใจมามอบสิทธิบัตรให้มาร์โกนีในปี 1904 ในปี 1943 ศาลสูงสุดของสหรัฐอเมริกา ตัดสินให้สิทธิบัตรก่อนหน้าซึ่งเป็นของเทสลา, โอลิเวอร์ ลอดจ์ และจอห์น สโตน มีผลใช้ได้ดังเดิม ศาลประกาศว่าการตัดสินใจของพวกเขาไม่ได้อ้างอิงคำกล่าวอ้างของมาร์โกนี ที่ว่าเขาเป็นคนแรกที่ประสบความสำเร็จในการส่งสัญญาณคลื่นวิทยุ แต่ตัดสินจากการที่คำกล่าวอ้างของมาร์โกนี ที่ว่าเขาเป็นเจ้าของสิทธิบัตรนั้นเป็นที่น่าสงสัย เขาไม่สามารถอ้างได้ว่ามีการละเมิดสิทธิบัตร (มีการกล่าวอ้างว่าศาลสูงพยายามทำให้การเรียกร้องของบริษัทมาร์โกนี ต่อรัฐบาลสหรัฐฯ เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 1 เป็นโมฆะ ด้วยการทำให้สิทธิบัตรใบก่อนหน้าของเทสลากลับมาใช้ได้เหมือนเดิม) | ใครเป็นคนแรกที่ส่งสัญญาณวิทยุข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก | {
"text": [
"กูลเยลโม มาร์โกนี"
],
"answer_start": [
95
]
} |
56e0fc3f7aa994140058e879 | ในปี 1900 เทสลาได้รับสิทธิบัตรสำหรับ “ระบบส่งผ่านพลังงานไฟฟ้า” และ “เครื่องส่งผ่านไฟฟ้า” เมื่อ กูลเยลโม มาร์โกนี ส่งสัญญาณคลื่นวิทยุข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกเป็นครั้งแรกในปี 1901 จนโด่งดัง เทสลาก็แขวะว่าเขาทำเช่นนั้นโดยใช้อุปกรณ์ที่เทสลาเป็นเจ้าของสิทธิบัตร 17 ใบ ทว่าแทบไม่มีหลักฐานมารองรับคำกล่าวอ้างนี้เลย นี่คือจุดเริ่มต้นของการรบราเรื่องสิทธิบัตรคลื่นวิทยุซึ่งกินเวลาหลายปี โดยที่สิทธิบัตรของเทสลาได้รับการเชิดชูในปี 1903 ตามด้วยการเปลี่ยนใจมามอบสิทธิบัตรให้มาร์โกนีในปี 1904 ในปี 1943 ศาลสูงสุดของสหรัฐอเมริกา ตัดสินให้สิทธิบัตรก่อนหน้าซึ่งเป็นของเทสลา, โอลิเวอร์ ลอดจ์ และจอห์น สโตน มีผลใช้ได้ดังเดิม ศาลประกาศว่าการตัดสินใจของพวกเขาไม่ได้อ้างอิงคำกล่าวอ้างของมาร์โกนี ที่ว่าเขาเป็นคนแรกที่ประสบความสำเร็จในการส่งสัญญาณคลื่นวิทยุ แต่ตัดสินจากการที่คำกล่าวอ้างของมาร์โกนี ที่ว่าเขาเป็นเจ้าของสิทธิบัตรนั้นเป็นที่น่าสงสัย เขาไม่สามารถอ้างได้ว่ามีการละเมิดสิทธิบัตร (มีการกล่าวอ้างว่าศาลสูงพยายามทำให้การเรียกร้องของบริษัทมาร์โกนี ต่อรัฐบาลสหรัฐฯ เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 1 เป็นโมฆะ ด้วยการทำให้สิทธิบัตรใบก่อนหน้าของเทสลากลับมาใช้ได้เหมือนเดิม) | การสาธิตส่งสัญญาณวิทยุของมาร์โกนีเกิดขึ้นเมื่อใด | {
"text": [
"1901"
],
"answer_start": [
171
]
} |
56e0fc3f7aa994140058e87a | ในปี 1900 เทสลาได้รับสิทธิบัตรสำหรับ “ระบบส่งผ่านพลังงานไฟฟ้า” และ “เครื่องส่งผ่านไฟฟ้า” เมื่อ กูลเยลโม มาร์โกนี ส่งสัญญาณคลื่นวิทยุข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกเป็นครั้งแรกในปี 1901 จนโด่งดัง เทสลาก็แขวะว่าเขาทำเช่นนั้นโดยใช้อุปกรณ์ที่เทสลาเป็นเจ้าของสิทธิบัตร 17 ใบ ทว่าแทบไม่มีหลักฐานมารองรับคำกล่าวอ้างนี้เลย นี่คือจุดเริ่มต้นของการรบราเรื่องสิทธิบัตรคลื่นวิทยุซึ่งกินเวลาหลายปี โดยที่สิทธิบัตรของเทสลาได้รับการเชิดชูในปี 1903 ตามด้วยการเปลี่ยนใจมามอบสิทธิบัตรให้มาร์โกนีในปี 1904 ในปี 1943 ศาลสูงสุดของสหรัฐอเมริกา ตัดสินให้สิทธิบัตรก่อนหน้าซึ่งเป็นของเทสลา, โอลิเวอร์ ลอดจ์ และจอห์น สโตน มีผลใช้ได้ดังเดิม ศาลประกาศว่าการตัดสินใจของพวกเขาไม่ได้อ้างอิงคำกล่าวอ้างของมาร์โกนี ที่ว่าเขาเป็นคนแรกที่ประสบความสำเร็จในการส่งสัญญาณคลื่นวิทยุ แต่ตัดสินจากการที่คำกล่าวอ้างของมาร์โกนี ที่ว่าเขาเป็นเจ้าของสิทธิบัตรนั้นเป็นที่น่าสงสัย เขาไม่สามารถอ้างได้ว่ามีการละเมิดสิทธิบัตร (มีการกล่าวอ้างว่าศาลสูงพยายามทำให้การเรียกร้องของบริษัทมาร์โกนี ต่อรัฐบาลสหรัฐฯ เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 1 เป็นโมฆะ ด้วยการทำให้สิทธิบัตรใบก่อนหน้าของเทสลากลับมาใช้ได้เหมือนเดิม) | สิทธิบัตรของเทสลากลับมาใช้ได้ดังเดิมเมื่อใด | {
"text": [
"1943"
],
"answer_start": [
484
]
} |
56e0fc3f7aa994140058e87b | ในปี 1900 เทสลาได้รับสิทธิบัตรสำหรับ “ระบบส่งผ่านพลังงานไฟฟ้า” และ “เครื่องส่งผ่านไฟฟ้า” เมื่อ กูลเยลโม มาร์โกนี ส่งสัญญาณคลื่นวิทยุข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกเป็นครั้งแรกในปี 1901 จนโด่งดัง เทสลาก็แขวะว่าเขาทำเช่นนั้นโดยใช้อุปกรณ์ที่เทสลาเป็นเจ้าของสิทธิบัตร 17 ใบ ทว่าแทบไม่มีหลักฐานมารองรับคำกล่าวอ้างนี้เลย นี่คือจุดเริ่มต้นของการรบราเรื่องสิทธิบัตรคลื่นวิทยุซึ่งกินเวลาหลายปี โดยที่สิทธิบัตรของเทสลาได้รับการเชิดชูในปี 1903 ตามด้วยการเปลี่ยนใจมามอบสิทธิบัตรให้มาร์โกนีในปี 1904 ในปี 1943 ศาลสูงสุดของสหรัฐอเมริกา ตัดสินให้สิทธิบัตรก่อนหน้าซึ่งเป็นของเทสลา, โอลิเวอร์ ลอดจ์ และจอห์น สโตน มีผลใช้ได้ดังเดิม ศาลประกาศว่าการตัดสินใจของพวกเขาไม่ได้อ้างอิงคำกล่าวอ้างของมาร์โกนี ที่ว่าเขาเป็นคนแรกที่ประสบความสำเร็จในการส่งสัญญาณคลื่นวิทยุ แต่ตัดสินจากการที่คำกล่าวอ้างของมาร์โกนี ที่ว่าเขาเป็นเจ้าของสิทธิบัตรนั้นเป็นที่น่าสงสัย เขาไม่สามารถอ้างได้ว่ามีการละเมิดสิทธิบัตร (มีการกล่าวอ้างว่าศาลสูงพยายามทำให้การเรียกร้องของบริษัทมาร์โกนี ต่อรัฐบาลสหรัฐฯ เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 1 เป็นโมฆะ ด้วยการทำให้สิทธิบัตรใบก่อนหน้าของเทสลากลับมาใช้ได้เหมือนเดิม) | องค์กรใดเป็นผู้ตัดสินใจให้สิทธิบัตรของเทสลาใช้ได้ดังเดิม | {
"text": [
"ศาลสูงสุดของสหรัฐอเมริกา"
],
"answer_start": [
489
]
} |
56e10aa5cd28a01900c674b3 | ในช่วงหลายปีต่อมาหลังจากที่มีข่าวลือต่าง ๆ ทั้งเทสลา และ เอดิสัน ต่างก็ไม่ได้รับรางวัล (อย่างไรดี ในปี 1915 เอดิสัน เป็นหนึ่งในผู้ได้รับการเสนอชื่อจากทั้งหมด 38 คน และเทสลาก็ เป็นหนึ่งในผู้ได้รับการเสนอชื่อจากทั้งหมด 38 คนในปี 1937) | มีผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ได้รับรางวัลกี่คนในปี 1915 | {
"text": [
"38"
],
"answer_start": [
158
]
} |
56e10aa5cd28a01900c674b4 | ในช่วงหลายปีต่อมาหลังจากที่มีข่าวลือต่าง ๆ ทั้งเทสลา และ เอดิสัน ต่างก็ไม่ได้รับรางวัล (อย่างไรดี ในปี 1915 เอดิสัน เป็นหนึ่งในผู้ได้รับการเสนอชื่อจากทั้งหมด 38 คน และเทสลาก็ เป็นหนึ่งในผู้ได้รับการเสนอชื่อจากทั้งหมด 38 คนในปี 1937) | ใครได้รับการเสนอชืาอในปี 1915 | {
"text": [
"เอดิสัน"
],
"answer_start": [
57
]
} |
56e10aa5cd28a01900c674b5 | ในช่วงหลายปีต่อมาหลังจากที่มีข่าวลือต่าง ๆ ทั้งเทสลา และ เอดิสัน ต่างก็ไม่ได้รับรางวัล (อย่างไรดี ในปี 1915 เอดิสัน เป็นหนึ่งในผู้ได้รับการเสนอชื่อจากทั้งหมด 38 คน และเทสลาก็ เป็นหนึ่งในผู้ได้รับการเสนอชื่อจากทั้งหมด 38 คนในปี 1937) | เทสลาได้รับการเสนอชื่อให้ได้รับรางวัลโนเบลในปีใด | {
"text": [
"1937"
],
"answer_start": [
228
]
} |
56e1254ae3433e1400422c66 | อย่างไรก็ดี ทัศนคติทางด้านศาสนาของเทสลายังคงเป็นเรื่องที่ คลุมเครือ เนื่องจากคำกล่าวต่าง ๆ ของเขา เช่น ในบทความเรื่อง "เครื่องจักรสำหรับยุติ สงคราม ของเขา ซึ่งตีพิมพ์ในปี 1937 เทสลา กล่าวว่า: | บทความใดได้รับการตีพิมพ์ในปี 1937 | {
"text": [
"\"เครื่องจักรสำหรับยุติ สงคราม"
],
"answer_start": [
119
]
} |
56e1254ae3433e1400422c67 | อย่างไรก็ดี ทัศนคติทางด้านศาสนาของเทสลายังคงเป็นเรื่องที่ คลุมเครือ เนื่องจากคำกล่าวต่าง ๆ ของเขา เช่น ในบทความเรื่อง "เครื่องจักรสำหรับยุติ สงคราม ของเขา ซึ่งตีพิมพ์ในปี 1937 เทสลา กล่าวว่า: | คำกล่าวนั้นทำให้ทัศนคติด้านศาสนาของเขาเป็นอย่างไร | {
"text": [
"คลุมเครือ"
],
"answer_start": [
58
]
} |
56e1254ae3433e1400422c68 | อย่างไรก็ดี ทัศนคติทางด้านศาสนาของเทสลายังคงเป็นเรื่องที่ คลุมเครือ เนื่องจากคำกล่าวต่าง ๆ ของเขา เช่น ในบทความเรื่อง "เครื่องจักรสำหรับยุติ สงคราม ของเขา ซึ่งตีพิมพ์ในปี 1937 เทสลา กล่าวว่า: | ในชื่อของบทความ เครื่องจักรหวังที่จะยุติสิ่งใด | {
"text": [
"สงคราม"
],
"answer_start": [
142
]
} |
56e16182e3433e1400422e28 | ทฤษฎีความซับซ้อนในการคำนวณ คือสาขาหนึ่งของทฤษฎีการคำนวณในวิทยาการคอมพิวเตอร์เชิงทฤษฎี ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การจัดหมวดหมู่ โจทย์ปัญหาในการคำนวณ ตามคุณสมบัติความยาก และเชื่อมโยงหมวดหมู่เหล่านั้นเข้าด้วยกัน เป็นที่เข้าใจกันว่าโจทย์ปัญหาในการคำนวณนั้นเป็นภารกิจซึ่งโดยหลักการแล้วได้รับการยินยอมให้มีการแก้ด้วยคอมพิวเตอร์ นั่นหมายความว่าโจทย์ปัญหานั้นอาจได้รับการแก้ด้วยการใช้กลไกที่เกี่ยวกับกระบวนการทางคณิตศาสตร์ เช่น อัลกอริธึม | วิทยาการคอมพิวเตอร์เชิงทฤษฎีสาขาใดที่ข้องเกี่ยวกับการจัดหมวดหมู่ปัญหาทางการคำนวณตามความยากและความสัมพันธ์ | {
"text": [
"ทฤษฎีความซับซ้อนในการคำนวณ"
],
"answer_start": [
0
]
} |
56e16182e3433e1400422e29 | ทฤษฎีความซับซ้อนในการคำนวณ คือสาขาหนึ่งของทฤษฎีการคำนวณในวิทยาการคอมพิวเตอร์เชิงทฤษฎี ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การจัดหมวดหมู่ โจทย์ปัญหาในการคำนวณ ตามคุณสมบัติความยาก และเชื่อมโยงหมวดหมู่เหล่านั้นเข้าด้วยกัน เป็นที่เข้าใจกันว่าโจทย์ปัญหาในการคำนวณนั้นเป็นภารกิจซึ่งโดยหลักการแล้วได้รับการยินยอมให้มีการแก้ด้วยคอมพิวเตอร์ นั่นหมายความว่าโจทย์ปัญหานั้นอาจได้รับการแก้ด้วยการใช้กลไกที่เกี่ยวกับกระบวนการทางคณิตศาสตร์ เช่น อัลกอริธึม | โจทย์ปัญหาทางการคำนวณได้รับการจัดหมวดหมู่จากคุณสมบัติหลักใดโดยใช้ทฤษฎีความซับซ้อนในการคำนวณ | {
"text": [
"คุณสมบัติความยาก"
],
"answer_start": [
142
]
} |
56e16182e3433e1400422e2a | ทฤษฎีความซับซ้อนในการคำนวณ คือสาขาหนึ่งของทฤษฎีการคำนวณในวิทยาการคอมพิวเตอร์เชิงทฤษฎี ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การจัดหมวดหมู่ โจทย์ปัญหาในการคำนวณ ตามคุณสมบัติความยาก และเชื่อมโยงหมวดหมู่เหล่านั้นเข้าด้วยกัน เป็นที่เข้าใจกันว่าโจทย์ปัญหาในการคำนวณนั้นเป็นภารกิจซึ่งโดยหลักการแล้วได้รับการยินยอมให้มีการแก้ด้วยคอมพิวเตอร์ นั่นหมายความว่าโจทย์ปัญหานั้นอาจได้รับการแก้ด้วยการใช้กลไกที่เกี่ยวกับกระบวนการทางคณิตศาสตร์ เช่น อัลกอริธึม | คำศัพท์ใดใช้เรียกภารกิจซึ่งโดยทั่วไปแล้วยินยอมให้ตัวมันเองได้รับการแก้ไขด้วยคอมพิวเตอร์ | {
"text": [
"โจทย์ปัญหาในการคำนวณ"
],
"answer_start": [
118
]
} |
56e181d9e3433e1400422fa0 | เมื่อพิจารณาถึงโจทย์ปัญหาในการคำนวณแล้ว อินสแตนซ์ของโจทย์ปัญหา คือสายอักขระของตัวอักษรหนึ่ง ๆ ปกติแล้ว ตัวอักษรจะถูกแทนที่ด้วยอักษร ไบนารี (เช่น เซตของ {0,1}) และด้วยเหตุนั้นสายอักขระจึงเป็น สายบิต ในคอมพิวเตอร์ของโลกจริง วัตถุทางคณิตศาสตร์ใด ๆ นอกเหนือจากสายบิตแล้วจะต้องได้รับการถอดรหัสอย่างเหมาะสม ตัวอย่างเช่น จำนวนเต็มสามารถเขียนเป็นสัญลักษณ์ด้วย สัญกรณ์ไบนารี และกราฟสามารถได้รับการถอดรหัสโดยตรงผ่านทาง เมตริกซ์ประชิด หรือด้วยการถอดรหัสรายการประชิดให้เป็นไบนารี | ในโจทย์ปัญหาทางการคำนวณ อะไรสามารถเรียกได้ว่าเป็นสายอักขระของตัวอักษรหนึ่ง ๆ | {
"text": [
"อินสแตนซ์ของโจทย์ปัญหา"
],
"answer_start": [
40
]
} |
56e181d9e3433e1400422fa1 | เมื่อพิจารณาถึงโจทย์ปัญหาในการคำนวณแล้ว อินสแตนซ์ของโจทย์ปัญหา คือสายอักขระของตัวอักษรหนึ่ง ๆ ปกติแล้ว ตัวอักษรจะถูกแทนที่ด้วยอักษร ไบนารี (เช่น เซตของ {0,1}) และด้วยเหตุนั้นสายอักขระจึงเป็น สายบิต ในคอมพิวเตอร์ของโลกจริง วัตถุทางคณิตศาสตร์ใด ๆ นอกเหนือจากสายบิตแล้วจะต้องได้รับการถอดรหัสอย่างเหมาะสม ตัวอย่างเช่น จำนวนเต็มสามารถเขียนเป็นสัญลักษณ์ด้วย สัญกรณ์ไบนารี และกราฟสามารถได้รับการถอดรหัสโดยตรงผ่านทาง เมตริกซ์ประชิด หรือด้วยการถอดรหัสรายการประชิดให้เป็นไบนารี | ตัวอักษรที่ถูกใช้มากที่สุดในอินสแตนซ์ของโจทย์ปัญหามีชื่อว่าอะไร | {
"text": [
"ไบนารี"
],
"answer_start": [
133
]
} |
56e181d9e3433e1400422fa2 | เมื่อพิจารณาถึงโจทย์ปัญหาในการคำนวณแล้ว อินสแตนซ์ของโจทย์ปัญหา คือสายอักขระของตัวอักษรหนึ่ง ๆ ปกติแล้ว ตัวอักษรจะถูกแทนที่ด้วยอักษร ไบนารี (เช่น เซตของ {0,1}) และด้วยเหตุนั้นสายอักขระจึงเป็น สายบิต ในคอมพิวเตอร์ของโลกจริง วัตถุทางคณิตศาสตร์ใด ๆ นอกเหนือจากสายบิตแล้วจะต้องได้รับการถอดรหัสอย่างเหมาะสม ตัวอย่างเช่น จำนวนเต็มสามารถเขียนเป็นสัญลักษณ์ด้วย สัญกรณ์ไบนารี และกราฟสามารถได้รับการถอดรหัสโดยตรงผ่านทาง เมตริกซ์ประชิด หรือด้วยการถอดรหัสรายการประชิดให้เป็นไบนารี | สายของอินสแตนซ์ของโจทย์ปัญหาเรียกอีกอย่างว่าอะไร | {
"text": [
"สายบิต"
],
"answer_start": [
192
]
} |
56e181d9e3433e1400422fa3 | เมื่อพิจารณาถึงโจทย์ปัญหาในการคำนวณแล้ว อินสแตนซ์ของโจทย์ปัญหา คือสายอักขระของตัวอักษรหนึ่ง ๆ ปกติแล้ว ตัวอักษรจะถูกแทนที่ด้วยอักษร ไบนารี (เช่น เซตของ {0,1}) และด้วยเหตุนั้นสายอักขระจึงเป็น สายบิต ในคอมพิวเตอร์ของโลกจริง วัตถุทางคณิตศาสตร์ใด ๆ นอกเหนือจากสายบิตแล้วจะต้องได้รับการถอดรหัสอย่างเหมาะสม ตัวอย่างเช่น จำนวนเต็มสามารถเขียนเป็นสัญลักษณ์ด้วย สัญกรณ์ไบนารี และกราฟสามารถได้รับการถอดรหัสโดยตรงผ่านทาง เมตริกซ์ประชิด หรือด้วยการถอดรหัสรายการประชิดให้เป็นไบนารี | ปกติแล้วจำนวนเต็มเขียนเป็นสัญลักษณ์ได้อย่างไรในการถอดรหัสวัตถุทางคณิตศาสตร์ | {
"text": [
"สัญกรณ์ไบนารี"
],
"answer_start": [
355
]
} |
56e181d9e3433e1400422fa4 | เมื่อพิจารณาถึงโจทย์ปัญหาในการคำนวณแล้ว อินสแตนซ์ของโจทย์ปัญหา คือสายอักขระของตัวอักษรหนึ่ง ๆ ปกติแล้ว ตัวอักษรจะถูกแทนที่ด้วยอักษร ไบนารี (เช่น เซตของ {0,1}) และด้วยเหตุนั้นสายอักขระจึงเป็น สายบิต ในคอมพิวเตอร์ของโลกจริง วัตถุทางคณิตศาสตร์ใด ๆ นอกเหนือจากสายบิตแล้วจะต้องได้รับการถอดรหัสอย่างเหมาะสม ตัวอย่างเช่น จำนวนเต็มสามารถเขียนเป็นสัญลักษณ์ด้วย สัญกรณ์ไบนารี และกราฟสามารถได้รับการถอดรหัสโดยตรงผ่านทาง เมตริกซ์ประชิด หรือด้วยการถอดรหัสรายการประชิดให้เป็นไบนารี | กราฟสามารถได้รับการถอดรหัสด้วยวิธีใด | {
"text": [
"เมตริกซ์ประชิด"
],
"answer_start": [
412
]
} |
56e1a0dccd28a01900c67a2e | เป็นเรื่องที่น่าขบคิดว่าสัญกรณ์ของโจทย์ปัญหาฟังก์ชั่นนั้นซับซ้อนกว่าสัญกรณ์ของโจทย์ปัญหาสำหรับตัดสินใจมากนัก อย่างไรก็ดี นี่ไม่ใช่ปัญหา เนื่องจากโจทย์ปัญหาฟังก์ชั่นนั้นสามารถได้รับการเปลี่ยนรูป ให้เป็นโจทย์ปัญหาสำหรับตัดสินใจ ได้ ตัวอย่างเช่น การคูณจำนวนเต็มสองจำนวนสามารถเขียนเป็นสัญลักษณ์ได้ด้วย เซตของสาม (a, b, c) โดยที่ความสัมพันธ์คือ a × b = c การตัดสินใจว่าตัวอักษรทั้งสามที่ให้มาเป็นสมาชิกของเซตนี้หรือไม่ มีลักษณะเช่นเดียวกับการแก้โจทย์ปัญหาการคูณเลขสองจำนวน | โดยปกติแล้วโจทย์ปัญหาฟังก์ชั่นนั้นสามารถได้รับการเปลี่ยนรูปอย่างไร | {
"text": [
"ให้เป็นโจทย์ปัญหาสำหรับตัดสินใจ"
],
"answer_start": [
194
]
} |
56e1a0dccd28a01900c67a2f | เป็นเรื่องที่น่าขบคิดว่าสัญกรณ์ของโจทย์ปัญหาฟังก์ชั่นนั้นซับซ้อนกว่าสัญกรณ์ของโจทย์ปัญหาสำหรับตัดสินใจมากนัก อย่างไรก็ดี นี่ไม่ใช่ปัญหา เนื่องจากโจทย์ปัญหาฟังก์ชั่นนั้นสามารถได้รับการเปลี่ยนรูป ให้เป็นโจทย์ปัญหาสำหรับตัดสินใจ ได้ ตัวอย่างเช่น การคูณจำนวนเต็มสองจำนวนสามารถเขียนเป็นสัญลักษณ์ได้ด้วย เซตของสาม (a, b, c) โดยที่ความสัมพันธ์คือ a × b = c การตัดสินใจว่าตัวอักษรทั้งสามที่ให้มาเป็นสมาชิกของเซตนี้หรือไม่ มีลักษณะเช่นเดียวกับการแก้โจทย์ปัญหาการคูณเลขสองจำนวน | ถ้าจำนวนเต็มสองจำนวนได้รับการคูณและแสดงผลลัพธ์ออกมา เซตที่นำมาแทนค่าเรียกว่าอะไร | {
"text": [
"เซตของสาม"
],
"answer_start": [
298
]
} |
56e1b62ecd28a01900c67aa3 | เราใช้แบบจำลองทางการคำนวณ อย่างเช่น เครื่องจักรทัวริงเชิงกำหนด ในการกำหนดนิยามที่แน่ชัดว่าการแก้โจทย์ปัญหาโดยใช้ เวลา และที่ว่างในโจทย์ปัญหาคืออะไร เวลาซึ่งเครื่องจักรทัวริงเชิงกำหนด M ต้องการสำหรับอินพุต x คือจำนวนครั้งของ การเปลี่ยนสถานะ หรือขั้นตอนทั้งหมดที่เครื่องจักรทำก่อนที่มันจะหยุดและแสดงคำตอบว่า (“ใช่” หรือ “ไม่ใช่”) เครื่องจักรทัวริงเชิงกำหนด M จะปฏิบัติการภายในเวลา f(n) ถ้าเวลาที่ M ต้องการสำหรับแต่ละอินพุตของความยาว n สูงสุดอยู่ที่ f(n) โจทย์ปัญหาสำหรับตัดสินใจ A สามารถได้รับการแก้ในเวลา f(n) หากว่ามีเครื่องจักรทัวริงปฏิบัติซึ่งแก้ปัญหาการภายในเวลา f(n) เนื่องจากทฤษฎีความซับซ้อนนั้นให้ความสำคัญกับการจัดหมวดหมู่ปัญหาโดยอาศัย ความยาก จึงมีการกำหนดชุดของโจทย์ปัญหาด้วยกฎเกณฑ์บางอย่าง ตัวอย่างเช่น ชุดของโจทย์ปัญหาซึ่งสามารถได้รับการแก้ภายในเวลา f(n) บนเครื่องจักรทัวริงเชิงกำหนด จะได้รับการเขียนเป็นสัญลักษณ์ว่า DTIME(f(n)) | เวลาที่เครื่องจักรทัวริงเชิงกำหนดต้องการในการแสดงผลคำตอบเขียนเป็นสัญลักษณ์ว่าอะไร | {
"text": [
"การเปลี่ยนสถานะ"
],
"answer_start": [
225
]
} |
56e1b62ecd28a01900c67aa4 | เราใช้แบบจำลองทางการคำนวณ อย่างเช่น เครื่องจักรทัวริงเชิงกำหนด ในการกำหนดนิยามที่แน่ชัดว่าการแก้โจทย์ปัญหาโดยใช้ เวลา และที่ว่างในโจทย์ปัญหาคืออะไร เวลาซึ่งเครื่องจักรทัวริงเชิงกำหนด M ต้องการสำหรับอินพุต x คือจำนวนครั้งของ การเปลี่ยนสถานะ หรือขั้นตอนทั้งหมดที่เครื่องจักรทำก่อนที่มันจะหยุดและแสดงคำตอบว่า (“ใช่” หรือ “ไม่ใช่”) เครื่องจักรทัวริงเชิงกำหนด M จะปฏิบัติการภายในเวลา f(n) ถ้าเวลาที่ M ต้องการสำหรับแต่ละอินพุตของความยาว n สูงสุดอยู่ที่ f(n) โจทย์ปัญหาสำหรับตัดสินใจ A สามารถได้รับการแก้ในเวลา f(n) หากว่ามีเครื่องจักรทัวริงปฏิบัติซึ่งแก้ปัญหาการภายในเวลา f(n) เนื่องจากทฤษฎีความซับซ้อนนั้นให้ความสำคัญกับการจัดหมวดหมู่ปัญหาโดยอาศัย ความยาก จึงมีการกำหนดชุดของโจทย์ปัญหาด้วยกฎเกณฑ์บางอย่าง ตัวอย่างเช่น ชุดของโจทย์ปัญหาซึ่งสามารถได้รับการแก้ภายในเวลา f(n) บนเครื่องจักรทัวริงเชิงกำหนด จะได้รับการเขียนเป็นสัญลักษณ์ว่า DTIME(f(n)) | ทฤษฎีความซับซ้อนจัดหมวดหมู่โจทย์ปัญหาโดยใช้อะไรเป็นเกณฑ์ | {
"text": [
"ความยาก"
],
"answer_start": [
648
]
} |
56e1b62ecd28a01900c67aa5 | เราใช้แบบจำลองทางการคำนวณ อย่างเช่น เครื่องจักรทัวริงเชิงกำหนด ในการกำหนดนิยามที่แน่ชัดว่าการแก้โจทย์ปัญหาโดยใช้ เวลา และที่ว่างในโจทย์ปัญหาคืออะไร เวลาซึ่งเครื่องจักรทัวริงเชิงกำหนด M ต้องการสำหรับอินพุต x คือจำนวนครั้งของ การเปลี่ยนสถานะ หรือขั้นตอนทั้งหมดที่เครื่องจักรทำก่อนที่มันจะหยุดและแสดงคำตอบว่า (“ใช่” หรือ “ไม่ใช่”) เครื่องจักรทัวริงเชิงกำหนด M จะปฏิบัติการภายในเวลา f(n) ถ้าเวลาที่ M ต้องการสำหรับแต่ละอินพุตของความยาว n สูงสุดอยู่ที่ f(n) โจทย์ปัญหาสำหรับตัดสินใจ A สามารถได้รับการแก้ในเวลา f(n) หากว่ามีเครื่องจักรทัวริงปฏิบัติซึ่งแก้ปัญหาการภายในเวลา f(n) เนื่องจากทฤษฎีความซับซ้อนนั้นให้ความสำคัญกับการจัดหมวดหมู่ปัญหาโดยอาศัย ความยาก จึงมีการกำหนดชุดของโจทย์ปัญหาด้วยกฎเกณฑ์บางอย่าง ตัวอย่างเช่น ชุดของโจทย์ปัญหาซึ่งสามารถได้รับการแก้ภายในเวลา f(n) บนเครื่องจักรทัวริงเชิงกำหนด จะได้รับการเขียนเป็นสัญลักษณ์ว่า DTIME(f(n)) | ชุดของโจทย์ปัญหาซึ่งสามารถได้รับการแก้ภายในเวลาบนเครื่องจักรทัวริงเชิงกำหนดเขียนเป็นสัญลักษณ์ว่าอะไร | {
"text": [
"DTIME(f(n))"
],
"answer_start": [
834
]
} |
56e1b62ecd28a01900c67aa6 | เราใช้แบบจำลองทางการคำนวณ อย่างเช่น เครื่องจักรทัวริงเชิงกำหนด ในการกำหนดนิยามที่แน่ชัดว่าการแก้โจทย์ปัญหาโดยใช้ เวลา และที่ว่างในโจทย์ปัญหาคืออะไร เวลาซึ่งเครื่องจักรทัวริงเชิงกำหนด M ต้องการสำหรับอินพุต x คือจำนวนครั้งของ การเปลี่ยนสถานะ หรือขั้นตอนทั้งหมดที่เครื่องจักรทำก่อนที่มันจะหยุดและแสดงคำตอบว่า (“ใช่” หรือ “ไม่ใช่”) เครื่องจักรทัวริงเชิงกำหนด M จะปฏิบัติการภายในเวลา f(n) ถ้าเวลาที่ M ต้องการสำหรับแต่ละอินพุตของความยาว n สูงสุดอยู่ที่ f(n) โจทย์ปัญหาสำหรับตัดสินใจ A สามารถได้รับการแก้ในเวลา f(n) หากว่ามีเครื่องจักรทัวริงปฏิบัติซึ่งแก้ปัญหาการภายในเวลา f(n) เนื่องจากทฤษฎีความซับซ้อนนั้นให้ความสำคัญกับการจัดหมวดหมู่ปัญหาโดยอาศัย ความยาก จึงมีการกำหนดชุดของโจทย์ปัญหาด้วยกฎเกณฑ์บางอย่าง ตัวอย่างเช่น ชุดของโจทย์ปัญหาซึ่งสามารถได้รับการแก้ภายในเวลา f(n) บนเครื่องจักรทัวริงเชิงกำหนด จะได้รับการเขียนเป็นสัญลักษณ์ว่า DTIME(f(n)) | อะไรคือทรัพยากรที่ได้รับการวัดซึ่งจำเป็นที่สุดในการประเมินความสามารถในการคำนวณของเครื่องจักรทัวริงในการแก้โจทย์ปัญหาชุดใด ๆ ที่ได้รับ | {
"text": [
"เวลา"
],
"answer_start": [
113
]
} |
56e1ee4de3433e1400423210 | หมวดหมู่ของความซับซ้อนหลายหมวดหมู่ เป็นที่สงสัยว่าไม่เท่ากัน แต่ก็ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ ตัวอย่างเช่น P ⊆ NP ⊆ PP ⊆ PSPACE แต่ก็เป็นไปได้ว่า P = PSPACE ถ้า P ไม่เท่ากับ NP แล้ว ดังนั้น P ก็จะไม่เท่ากับ PSPACE เช่นกัน เนื่องจากมีหมวดหมู่ของความซับซ้อนอยู่หลายหมวดหมู่ ระหว่าง P และ PSPACE, เช่น RP, BPP, PP, BQP, MA, PH, ฯลฯ เป็นไปได้ว่าความซับซ้อนทั้งหมดนี้ถูกรวมเป็นหมวดหมู่เดียว การพิสูจน์ว่าหมวดหมู่ใดๆ จากหมวดหมู่เหล่านี้ไม่เท่ากัน น่าจะเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญของทฤษฎีความซับซ้อน | โดยทั่วไปแล้วหมวดหมู่ของความซับซ้อนได้รับการสันนิษฐานว่าเป็นอย่างไรซึ่งยังไม่ได้รับการพิสูจน์ | {
"text": [
"เป็นที่สงสัยว่าไม่เท่ากัน"
],
"answer_start": [
35
]
} |
56e1ee4de3433e1400423211 | หมวดหมู่ของความซับซ้อนหลายหมวดหมู่ เป็นที่สงสัยว่าไม่เท่ากัน แต่ก็ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ ตัวอย่างเช่น P ⊆ NP ⊆ PP ⊆ PSPACE แต่ก็เป็นไปได้ว่า P = PSPACE ถ้า P ไม่เท่ากับ NP แล้ว ดังนั้น P ก็จะไม่เท่ากับ PSPACE เช่นกัน เนื่องจากมีหมวดหมู่ของความซับซ้อนอยู่หลายหมวดหมู่ ระหว่าง P และ PSPACE, เช่น RP, BPP, PP, BQP, MA, PH, ฯลฯ เป็นไปได้ว่าความซับซ้อนทั้งหมดนี้ถูกรวมเป็นหมวดหมู่เดียว การพิสูจน์ว่าหมวดหมู่ใดๆ จากหมวดหมู่เหล่านี้ไม่เท่ากัน น่าจะเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญของทฤษฎีความซับซ้อน | หมวดหมู่ของความซับซ้อนซึ่งเป็นที่สงสัยว่าไม่เท่ากันสามารถเขียนเป็นสัญลักษณ์ได้อย่างไร | {
"text": [
"P ⊆ NP ⊆ PP ⊆ PSPACE"
],
"answer_start": [
102
]
} |
56e1ee4de3433e1400423212 | หมวดหมู่ของความซับซ้อนหลายหมวดหมู่ เป็นที่สงสัยว่าไม่เท่ากัน แต่ก็ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ ตัวอย่างเช่น P ⊆ NP ⊆ PP ⊆ PSPACE แต่ก็เป็นไปได้ว่า P = PSPACE ถ้า P ไม่เท่ากับ NP แล้ว ดังนั้น P ก็จะไม่เท่ากับ PSPACE เช่นกัน เนื่องจากมีหมวดหมู่ของความซับซ้อนอยู่หลายหมวดหมู่ ระหว่าง P และ PSPACE, เช่น RP, BPP, PP, BQP, MA, PH, ฯลฯ เป็นไปได้ว่าความซับซ้อนทั้งหมดนี้ถูกรวมเป็นหมวดหมู่เดียว การพิสูจน์ว่าหมวดหมู่ใดๆ จากหมวดหมู่เหล่านี้ไม่เท่ากัน น่าจะเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญของทฤษฎีความซับซ้อน | สามารถหาหมวดหมู่ของความซับซ้อน RP, BPP, PP, BQP, MA, และ PH ได้ที่ใด | {
"text": [
"ระหว่าง P และ PSPACE"
],
"answer_start": [
267
]
} |
56e1ee4de3433e1400423214 | หมวดหมู่ของความซับซ้อนหลายหมวดหมู่ เป็นที่สงสัยว่าไม่เท่ากัน แต่ก็ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ ตัวอย่างเช่น P ⊆ NP ⊆ PP ⊆ PSPACE แต่ก็เป็นไปได้ว่า P = PSPACE ถ้า P ไม่เท่ากับ NP แล้ว ดังนั้น P ก็จะไม่เท่ากับ PSPACE เช่นกัน เนื่องจากมีหมวดหมู่ของความซับซ้อนอยู่หลายหมวดหมู่ ระหว่าง P และ PSPACE, เช่น RP, BPP, PP, BQP, MA, PH, ฯลฯ เป็นไปได้ว่าความซับซ้อนทั้งหมดนี้ถูกรวมเป็นหมวดหมู่เดียว การพิสูจน์ว่าหมวดหมู่ใดๆ จากหมวดหมู่เหล่านี้ไม่เท่ากัน น่าจะเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญของทฤษฎีความซับซ้อน | หลักฐานใดที่อยู่ระหว่างและท่ามกลางหมวดหมู่ของความซับซ้อนที่จะสามารถแสดงถึงจุดผกผันของทฤษฎีความซับซ้อน | {
"text": [
"การพิสูจน์ว่าหมวดหมู่ใดๆ จากหมวดหมู่เหล่านี้ไม่เท่ากัน"
],
"answer_start": [
381
]
} |
56e7586d37bdd419002c3eb3 | ในอดีต การลงโทษทางร่างกาย (การตีหรือฟาดหรือตีด้วยไม้เท้าหรือตีด้วยเข็มขัดหรือการเฆี่ยนด้วยไม้เรียวใส่นักเรียนเพื่อทำให้เกิด ความเจ็บปวดทางร่างกาย) เคย เป็นหนึ่งในรูปแบบการฝึกของโรงเรียนที่พบได้บ่อยที่สุด เกือบทั่วโลก ประเทศตะวันตกเกือบทุกประเทศ และบางประเทศในตอนนี้ได้แบนการกระทำนี้ แต่ยังคงถูกกฏหมายใน สหรัฐ ตามการตัดสินของ ศาลฎีกาของสหรัฐอเมริกา ในปี 1977 ซึ่งถือว่าการตีไม่ได้ละเมิดรัฐธรรมนูญสหรัฐ | ในอดีตรูปแบบการลงโทษทางร่างกายเกิดขึ้นบ่อยแค่ไหน? | {
"text": [
"เป็นหนึ่งในรูปแบบการฝึกของโรงเรียนที่พบได้บ่อยที่สุด"
],
"answer_start": [
152
]
} |
56e7586d37bdd419002c3eb4 | ในอดีต การลงโทษทางร่างกาย (การตีหรือฟาดหรือตีด้วยไม้เท้าหรือตีด้วยเข็มขัดหรือการเฆี่ยนด้วยไม้เรียวใส่นักเรียนเพื่อทำให้เกิด ความเจ็บปวดทางร่างกาย) เคย เป็นหนึ่งในรูปแบบการฝึกของโรงเรียนที่พบได้บ่อยที่สุด เกือบทั่วโลก ประเทศตะวันตกเกือบทุกประเทศ และบางประเทศในตอนนี้ได้แบนการกระทำนี้ แต่ยังคงถูกกฏหมายใน สหรัฐ ตามการตัดสินของ ศาลฎีกาของสหรัฐอเมริกา ในปี 1977 ซึ่งถือว่าการตีไม่ได้ละเมิดรัฐธรรมนูญสหรัฐ | ที่ใดที่ไม่มีการลงโทษทางร่างกายแล้วบ้าง? | {
"text": [
"ประเทศตะวันตกเกือบทุกประเทศ"
],
"answer_start": [
218
]
} |
56e7586d37bdd419002c3eb5 | ในอดีต การลงโทษทางร่างกาย (การตีหรือฟาดหรือตีด้วยไม้เท้าหรือตีด้วยเข็มขัดหรือการเฆี่ยนด้วยไม้เรียวใส่นักเรียนเพื่อทำให้เกิด ความเจ็บปวดทางร่างกาย) เคย เป็นหนึ่งในรูปแบบการฝึกของโรงเรียนที่พบได้บ่อยที่สุด เกือบทั่วโลก ประเทศตะวันตกเกือบทุกประเทศ และบางประเทศในตอนนี้ได้แบนการกระทำนี้ แต่ยังคงถูกกฏหมายใน สหรัฐ ตามการตัดสินของ ศาลฎีกาของสหรัฐอเมริกา ในปี 1977 ซึ่งถือว่าการตีไม่ได้ละเมิดรัฐธรรมนูญสหรัฐ | มีประเทศตะวันตกประเทศใดบ้างที่ยังอนุญาตให้มีการลงโทษทางร่างกายอยู่? | {
"text": [
"สหรัฐ"
],
"answer_start": [
304
]
} |
56e7586d37bdd419002c3eb6 | ในอดีต การลงโทษทางร่างกาย (การตีหรือฟาดหรือตีด้วยไม้เท้าหรือตีด้วยเข็มขัดหรือการเฆี่ยนด้วยไม้เรียวใส่นักเรียนเพื่อทำให้เกิด ความเจ็บปวดทางร่างกาย) เคย เป็นหนึ่งในรูปแบบการฝึกของโรงเรียนที่พบได้บ่อยที่สุด เกือบทั่วโลก ประเทศตะวันตกเกือบทุกประเทศ และบางประเทศในตอนนี้ได้แบนการกระทำนี้ แต่ยังคงถูกกฏหมายใน สหรัฐ ตามการตัดสินของ ศาลฎีกาของสหรัฐอเมริกา ในปี 1977 ซึ่งถือว่าการตีไม่ได้ละเมิดรัฐธรรมนูญสหรัฐ | หน่วยงานสหรัฐหน่วยงานใดที่กล่าวว่าการลงโทษทางร่างกายเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ? | {
"text": [
"ศาลฎีกาของสหรัฐอเมริกา"
],
"answer_start": [
326
]
} |
56e7586d37bdd419002c3eb7 | ในอดีต การลงโทษทางร่างกาย (การตีหรือฟาดหรือตีด้วยไม้เท้าหรือตีด้วยเข็มขัดหรือการเฆี่ยนด้วยไม้เรียวใส่นักเรียนเพื่อทำให้เกิด ความเจ็บปวดทางร่างกาย) เคย เป็นหนึ่งในรูปแบบการฝึกของโรงเรียนที่พบได้บ่อยที่สุด เกือบทั่วโลก ประเทศตะวันตกเกือบทุกประเทศ และบางประเทศในตอนนี้ได้แบนการกระทำนี้ แต่ยังคงถูกกฏหมายใน สหรัฐ ตามการตัดสินของ ศาลฎีกาของสหรัฐอเมริกา ในปี 1977 ซึ่งถือว่าการตีไม่ได้ละเมิดรัฐธรรมนูญสหรัฐ | การลงโทษทางร่างกายมีผลต่อนักเรียนอย่างไรบ้าง? | {
"text": [
"ความเจ็บปวดทางร่างกาย"
],
"answer_start": [
125
]
} |
56e7788200c9c71400d77180 | ครูในเวลส์สามารถเป็นสมาชิกลงทะเบียนของ สหภาพแรงงาน เช่น ATL, NUT หรือ NASUWTและรายงานในปีที่ผ่านมาเสนอว่าอายุเฉลี่ยของครูในเวลส์นั้น น้อยลง ด้วยครูนั้นมีอายุน้อยกว่าปีก่อนหน้า ความกังวล ที่เพิ่มมากขึ้นคือการโจมตีครูในโรงเรียนเวลส์ซึ่งถึงจุดสูงสุดตลอดกาล ระหว่างปี 2005 และ 2010 | กลุ่มใดที่ครูในเวลส์สามารถลงทะเบียนด้วยได้? | {
"text": [
"สหภาพแรงงาน"
],
"answer_start": [
39
]
} |
56e7788200c9c71400d77181 | ครูในเวลส์สามารถเป็นสมาชิกลงทะเบียนของ สหภาพแรงงาน เช่น ATL, NUT หรือ NASUWTและรายงานในปีที่ผ่านมาเสนอว่าอายุเฉลี่ยของครูในเวลส์นั้น น้อยลง ด้วยครูนั้นมีอายุน้อยกว่าปีก่อนหน้า ความกังวล ที่เพิ่มมากขึ้นคือการโจมตีครูในโรงเรียนเวลส์ซึ่งถึงจุดสูงสุดตลอดกาล ระหว่างปี 2005 และ 2010 | เกิดอะไรขึ้นกับอายุเฉลี่ยของครูในเวลส์? | {
"text": [
"น้อยลง"
],
"answer_start": [
133
]
} |
56e7788200c9c71400d77182 | ครูในเวลส์สามารถเป็นสมาชิกลงทะเบียนของ สหภาพแรงงาน เช่น ATL, NUT หรือ NASUWTและรายงานในปีที่ผ่านมาเสนอว่าอายุเฉลี่ยของครูในเวลส์นั้น น้อยลง ด้วยครูนั้นมีอายุน้อยกว่าปีก่อนหน้า ความกังวล ที่เพิ่มมากขึ้นคือการโจมตีครูในโรงเรียนเวลส์ซึ่งถึงจุดสูงสุดตลอดกาล ระหว่างปี 2005 และ 2010 | เมื่อไรที่การโจมตีครูเกิดขึ้นมากสุด? | {
"text": [
"ระหว่างปี 2005 และ 2010"
],
"answer_start": [
254
]
} |
56e7788200c9c71400d77183 | ครูในเวลส์สามารถเป็นสมาชิกลงทะเบียนของ สหภาพแรงงาน เช่น ATL, NUT หรือ NASUWTและรายงานในปีที่ผ่านมาเสนอว่าอายุเฉลี่ยของครูในเวลส์นั้น น้อยลง ด้วยครูนั้นมีอายุน้อยกว่าปีก่อนหน้า ความกังวล ที่เพิ่มมากขึ้นคือการโจมตีครูในโรงเรียนเวลส์ซึ่งถึงจุดสูงสุดตลอดกาล ระหว่างปี 2005 และ 2010 | NASUWT คืออะไร? | {
"text": [
"สหภาพแรงงาน"
],
"answer_start": [
39
]
} |
56e7788200c9c71400d77184 | ครูในเวลส์สามารถเป็นสมาชิกลงทะเบียนของ สหภาพแรงงาน เช่น ATL, NUT หรือ NASUWTและรายงานในปีที่ผ่านมาเสนอว่าอายุเฉลี่ยของครูในเวลส์นั้น น้อยลง ด้วยครูนั้นมีอายุน้อยกว่าปีก่อนหน้า ความกังวล ที่เพิ่มมากขึ้นคือการโจมตีครูในโรงเรียนเวลส์ซึ่งถึงจุดสูงสุดตลอดกาล ระหว่างปี 2005 และ 2010 | การโจมตีครูก่อให้เกิดอะไร? | {
"text": [
"ความกังวล"
],
"answer_start": [
176
]
} |
56e7796637bdd419002c3ffd | ในสหรัฐ แต่ละรัฐ กำหนดข้อกำหนดในการได้รับใบอนุญาตในการสอนในโรงเรียนรัฐ ทั่วไปแล้วประกาศนียบัตรการสอนมีอายุสามปี แต่ครูสามารถรับใบประกาศนียบัตรที่อยู่ได้นานถึงสิบปี ครูโรงเรียนรัฐจะต้องจบปริญญาตรี และส่วนใหญ่จะต้องได้รับการรับรองจากรัฐที่สอน โรงเรียนในกำกับของรัฐหลายแห่งไม่ได้บังคับให้ครูต้องมีใบอนุญาต หากพวกเขาถึงมาตรฐานเพื่อผ่านการรับรองโดย No Child Left Behind ยิ่งไปกว่านั้น โดยทั่วไปคุณสมบัติที่ต้องการสำหรับครูทดแทน/ชั่วคราวนั้นไม่เคร่งครัดเท่าครูสอนเต็มเวลา กระทรวงแรงงานประมาณการว่ามีครูสอนระดับประถม 1.4 ล้านคน ครูระดับมัธยมต้น 674,000 คน และครูระดับมัธยม 1 ล้านคนที่จ้างงานอยู่ในสหรัฐ | ในสหรัฐ ใครเป็นผู้กำหนดคุณสมบัติที่ต้องการสำหรับครู? | {
"text": [
"แต่ละรัฐ"
],
"answer_start": [
8
]
} |
56e7796637bdd419002c3ffe | ในสหรัฐ แต่ละรัฐ กำหนดข้อกำหนดในการได้รับใบอนุญาตในการสอนในโรงเรียนรัฐ ทั่วไปแล้วประกาศนียบัตรการสอนมีอายุสามปี แต่ครูสามารถรับใบประกาศนียบัตรที่อยู่ได้นานถึงสิบปี ครูโรงเรียนรัฐจะต้องจบปริญญาตรี และส่วนใหญ่จะต้องได้รับการรับรองจากรัฐที่สอน โรงเรียนในกำกับของรัฐหลายแห่งไม่ได้บังคับให้ครูต้องมีใบอนุญาต หากพวกเขาถึงมาตรฐานเพื่อผ่านการรับรองโดย No Child Left Behind ยิ่งไปกว่านั้น โดยทั่วไปคุณสมบัติที่ต้องการสำหรับครูทดแทน/ชั่วคราวนั้นไม่เคร่งครัดเท่าครูสอนเต็มเวลา กระทรวงแรงงานประมาณการว่ามีครูสอนระดับประถม 1.4 ล้านคน ครูระดับมัธยมต้น 674,000 คน และครูระดับมัธยม 1 ล้านคนที่จ้างงานอยู่ในสหรัฐ | ใบประกาศนียบัตรการสอนมีผลนานที่สุดเท่าไร? | {
"text": [
"สิบปี"
],
"answer_start": [
158
]
} |
56e7796637bdd419002c3fff | ในสหรัฐ แต่ละรัฐ กำหนดข้อกำหนดในการได้รับใบอนุญาตในการสอนในโรงเรียนรัฐ ทั่วไปแล้วประกาศนียบัตรการสอนมีอายุสามปี แต่ครูสามารถรับใบประกาศนียบัตรที่อยู่ได้นานถึงสิบปี ครูโรงเรียนรัฐจะต้องจบปริญญาตรี และส่วนใหญ่จะต้องได้รับการรับรองจากรัฐที่สอน โรงเรียนในกำกับของรัฐหลายแห่งไม่ได้บังคับให้ครูต้องมีใบอนุญาต หากพวกเขาถึงมาตรฐานเพื่อผ่านการรับรองโดย No Child Left Behind ยิ่งไปกว่านั้น โดยทั่วไปคุณสมบัติที่ต้องการสำหรับครูทดแทน/ชั่วคราวนั้นไม่เคร่งครัดเท่าครูสอนเต็มเวลา กระทรวงแรงงานประมาณการว่ามีครูสอนระดับประถม 1.4 ล้านคน ครูระดับมัธยมต้น 674,000 คน และครูระดับมัธยม 1 ล้านคนที่จ้างงานอยู่ในสหรัฐ | สิ่งที่ครูโรงเรียนรัฐต้องมีเป็นอย่างน้อยคืออะไร? | {
"text": [
"ปริญญาตรี"
],
"answer_start": [
186
]
} |
56e7796637bdd419002c4000 | ในสหรัฐ แต่ละรัฐ กำหนดข้อกำหนดในการได้รับใบอนุญาตในการสอนในโรงเรียนรัฐ ทั่วไปแล้วประกาศนียบัตรการสอนมีอายุสามปี แต่ครูสามารถรับใบประกาศนียบัตรที่อยู่ได้นานถึงสิบปี ครูโรงเรียนรัฐจะต้องจบปริญญาตรี และส่วนใหญ่จะต้องได้รับการรับรองจากรัฐที่สอน โรงเรียนในกำกับของรัฐหลายแห่งไม่ได้บังคับให้ครูต้องมีใบอนุญาต หากพวกเขาถึงมาตรฐานเพื่อผ่านการรับรองโดย No Child Left Behind ยิ่งไปกว่านั้น โดยทั่วไปคุณสมบัติที่ต้องการสำหรับครูทดแทน/ชั่วคราวนั้นไม่เคร่งครัดเท่าครูสอนเต็มเวลา กระทรวงแรงงานประมาณการว่ามีครูสอนระดับประถม 1.4 ล้านคน ครูระดับมัธยมต้น 674,000 คน และครูระดับมัธยม 1 ล้านคนที่จ้างงานอยู่ในสหรัฐ | ใครที่ไม่บังคับว่าครูต้องมีการรับรอง? | {
"text": [
"โรงเรียนในกำกับของรัฐ"
],
"answer_start": [
241
]
} |
56e7796637bdd419002c4001 | ในสหรัฐ แต่ละรัฐ กำหนดข้อกำหนดในการได้รับใบอนุญาตในการสอนในโรงเรียนรัฐ ทั่วไปแล้วประกาศนียบัตรการสอนมีอายุสามปี แต่ครูสามารถรับใบประกาศนียบัตรที่อยู่ได้นานถึงสิบปี ครูโรงเรียนรัฐจะต้องจบปริญญาตรี และส่วนใหญ่จะต้องได้รับการรับรองจากรัฐที่สอน โรงเรียนในกำกับของรัฐหลายแห่งไม่ได้บังคับให้ครูต้องมีใบอนุญาต หากพวกเขาถึงมาตรฐานเพื่อผ่านการรับรองโดย No Child Left Behind ยิ่งไปกว่านั้น โดยทั่วไปคุณสมบัติที่ต้องการสำหรับครูทดแทน/ชั่วคราวนั้นไม่เคร่งครัดเท่าครูสอนเต็มเวลา กระทรวงแรงงานประมาณการว่ามีครูสอนระดับประถม 1.4 ล้านคน ครูระดับมัธยมต้น 674,000 คน และครูระดับมัธยม 1 ล้านคนที่จ้างงานอยู่ในสหรัฐ | โรงเรียนในกำกับรัฐบาลต้องการว่าครูของพวกเขาถึงมาตรฐานเพื่อผ่านการรับรองโดยอะไร? | {
"text": [
"No Child Left Behind"
],
"answer_start": [
344
]
} |
56e77cee00c9c71400d771a8 | ในศาสนาฮินดู ครูทางจิตวิญญาณเป็นที่รู้จักในชื่อ กูรู และในหลายประเพณีของศาสนาฮินดู - โดยเฉพาะประเพณีที่พบได้ปกติใน ตะวันตก - ความสำคัญของการให้คำปรึกษาทางจิตวิญญาณนั้น สูงมาก โดยเหล่ากูรูมักใช้อำนาจในการควบคุมชีวิตของ ลูกศิษย์ | ชื่อของครูทางจิตวิญญาณในศาสนาฮินดูชื่ออะไร? | {
"text": [
"กูรู"
],
"answer_start": [
48
]
} |
56e77cee00c9c71400d771a9 | ในศาสนาฮินดู ครูทางจิตวิญญาณเป็นที่รู้จักในชื่อ กูรู และในหลายประเพณีของศาสนาฮินดู - โดยเฉพาะประเพณีที่พบได้ปกติใน ตะวันตก - ความสำคัญของการให้คำปรึกษาทางจิตวิญญาณนั้น สูงมาก โดยเหล่ากูรูมักใช้อำนาจในการควบคุมชีวิตของ ลูกศิษย์ | การเน้นในเรื่องการให้คำปรึกษาทางจิตวิญญาณในศาสนาฮินดูนั้นสูงหรือต่ำ? | {
"text": [
"สูงมาก"
],
"answer_start": [
168
]
} |
56e77cee00c9c71400d771aa | ในศาสนาฮินดู ครูทางจิตวิญญาณเป็นที่รู้จักในชื่อ กูรู และในหลายประเพณีของศาสนาฮินดู - โดยเฉพาะประเพณีที่พบได้ปกติใน ตะวันตก - ความสำคัญของการให้คำปรึกษาทางจิตวิญญาณนั้น สูงมาก โดยเหล่ากูรูมักใช้อำนาจในการควบคุมชีวิตของ ลูกศิษย์ | ใครที่กูรูควบคุม? | {
"text": [
"ลูกศิษย์"
],
"answer_start": [
218
]
} |
56e77cee00c9c71400d771ab | ในศาสนาฮินดู ครูทางจิตวิญญาณเป็นที่รู้จักในชื่อ กูรู และในหลายประเพณีของศาสนาฮินดู - โดยเฉพาะประเพณีที่พบได้ปกติใน ตะวันตก - ความสำคัญของการให้คำปรึกษาทางจิตวิญญาณนั้น สูงมาก โดยเหล่ากูรูมักใช้อำนาจในการควบคุมชีวิตของ ลูกศิษย์ | ในส่วนไหนที่เป็นเรื่องปกติสำหรับการให้คำปรึกษาทางจิตวิญญาณที่สูงมาก? | {
"text": [
"ตะวันตก"
],
"answer_start": [
115
]
} |
56e77da237bdd419002c403b | ในพุทธศาสนาทิเบต ครูสอนธรรมะในทิเบตนั้นถูกเรียกว่า ลามะ ลามะผู้ผ่าน พระวรสารและสิทธิ มุ่งมั่นที่จะ เกิดใหม่ บ่อยหลายครั้ง เพื่อที่จะดำเนินการปฎิญาณพระโพธิสัตว์ต่อซึ่งถูกเรียกว่า ตุลกุ | ครูสอนธรรมะในพุทธศาสนาทิเบตมีชื่อว่าอะไร? | {
"text": [
"ลามะ"
],
"answer_start": [
51
]
} |
56e77da237bdd419002c403c | ในพุทธศาสนาทิเบต ครูสอนธรรมะในทิเบตนั้นถูกเรียกว่า ลามะ ลามะผู้ผ่าน พระวรสารและสิทธิ มุ่งมั่นที่จะ เกิดใหม่ บ่อยหลายครั้ง เพื่อที่จะดำเนินการปฎิญาณพระโพธิสัตว์ต่อซึ่งถูกเรียกว่า ตุลกุ | สิ่งที่ลามะมุ่งมั่นที่จะทำคืออะไร? | {
"text": [
"เกิดใหม่"
],
"answer_start": [
99
]
} |
56e77da237bdd419002c403d | ในพุทธศาสนาทิเบต ครูสอนธรรมะในทิเบตนั้นถูกเรียกว่า ลามะ ลามะผู้ผ่าน พระวรสารและสิทธิ มุ่งมั่นที่จะ เกิดใหม่ บ่อยหลายครั้ง เพื่อที่จะดำเนินการปฎิญาณพระโพธิสัตว์ต่อซึ่งถูกเรียกว่า ตุลกุ | อะไรคือชื่อของการปฎิญาณพระโพธิสัตว์? | {
"text": [
"ตุลกุ"
],
"answer_start": [
178
]
} |
56e77da237bdd419002c403e | ในพุทธศาสนาทิเบต ครูสอนธรรมะในทิเบตนั้นถูกเรียกว่า ลามะ ลามะผู้ผ่าน พระวรสารและสิทธิ มุ่งมั่นที่จะ เกิดใหม่ บ่อยหลายครั้ง เพื่อที่จะดำเนินการปฎิญาณพระโพธิสัตว์ต่อซึ่งถูกเรียกว่า ตุลกุ | ลามะตกลงที่จะเกิดใหม่มากแค่ไหน? | {
"text": [
"หลายครั้ง"
],
"answer_start": [
112
]
} |
56e77da237bdd419002c403f | ในพุทธศาสนาทิเบต ครูสอนธรรมะในทิเบตนั้นถูกเรียกว่า ลามะ ลามะผู้ผ่าน พระวรสารและสิทธิ มุ่งมั่นที่จะ เกิดใหม่ บ่อยหลายครั้ง เพื่อที่จะดำเนินการปฎิญาณพระโพธิสัตว์ต่อซึ่งถูกเรียกว่า ตุลกุ | อะไรช่วยให้ลามะมุ่งมั่นที่จะเกิดใหม่? | {
"text": [
"พระวรสารและสิทธิ"
],
"answer_start": [
68
]
} |
56f8094aa6d7ea1400e17391 | งานเขียนของลูเทอร์แพร่หลายไปทั่ว ถึงประเทศฝรั่งเศส, อังกฤษ และอิตาลีตั้งแต่ปี 1519 นักเรียน กรูกันเข้ามาที่ Wittenberg เพื่อฟังลูเทอร์พูด เขาเผยแพร่ความเห็นสั้น ๆ เกี่ยวกับชาวกาลาเทียและงานของเขาเกี่ยวกับเพลงสดุดี ในช่วง เริ่มต้น อาชีพของลูเทอร์เป็นหนึ่งในช่วงที่เขามีความคิดสร้างสรรค์และผลิตผลงานมากที่สุด สามผลงานที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดถูกตีพิมพ์ในปี 1520: To the Christian Nobility of the German Nation, On the Babylonian Captivity of the Church และ On the Freedom of a Christian | งานเขียนของลูเทอร์กระจายไปยังฝรั่งเศส, อังกฤษและอิตาลีเมื่อใด? | {
"text": [
"1519"
],
"answer_start": [
78
]
} |
56f8094aa6d7ea1400e17392 | งานเขียนของลูเทอร์แพร่หลายไปทั่ว ถึงประเทศฝรั่งเศส, อังกฤษ และอิตาลีตั้งแต่ปี 1519 นักเรียน กรูกันเข้ามาที่ Wittenberg เพื่อฟังลูเทอร์พูด เขาเผยแพร่ความเห็นสั้น ๆ เกี่ยวกับชาวกาลาเทียและงานของเขาเกี่ยวกับเพลงสดุดี ในช่วง เริ่มต้น อาชีพของลูเทอร์เป็นหนึ่งในช่วงที่เขามีความคิดสร้างสรรค์และผลิตผลงานมากที่สุด สามผลงานที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดถูกตีพิมพ์ในปี 1520: To the Christian Nobility of the German Nation, On the Babylonian Captivity of the Church และ On the Freedom of a Christian | ใครเดินทางมายัง Wittenberg เพื่อฟังลูเทอร์พูด? | {
"text": [
"นักเรียน"
],
"answer_start": [
83
]
} |
56f8094aa6d7ea1400e17393 | งานเขียนของลูเทอร์แพร่หลายไปทั่ว ถึงประเทศฝรั่งเศส, อังกฤษ และอิตาลีตั้งแต่ปี 1519 นักเรียน กรูกันเข้ามาที่ Wittenberg เพื่อฟังลูเทอร์พูด เขาเผยแพร่ความเห็นสั้น ๆ เกี่ยวกับชาวกาลาเทียและงานของเขาเกี่ยวกับเพลงสดุดี ในช่วง เริ่มต้น อาชีพของลูเทอร์เป็นหนึ่งในช่วงที่เขามีความคิดสร้างสรรค์และผลิตผลงานมากที่สุด สามผลงานที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดถูกตีพิมพ์ในปี 1520: To the Christian Nobility of the German Nation, On the Babylonian Captivity of the Church และ On the Freedom of a Christian | ช่วงใดในอาชีพของลูเทอร์ที่เป็นหนึ่งในช่วงที่ผลิตผลงานมากที่สุด? | {
"text": [
"เริ่มต้น"
],
"answer_start": [
221
]
} |
56f8094aa6d7ea1400e17394 | งานเขียนของลูเทอร์แพร่หลายไปทั่ว ถึงประเทศฝรั่งเศส, อังกฤษ และอิตาลีตั้งแต่ปี 1519 นักเรียน กรูกันเข้ามาที่ Wittenberg เพื่อฟังลูเทอร์พูด เขาเผยแพร่ความเห็นสั้น ๆ เกี่ยวกับชาวกาลาเทียและงานของเขาเกี่ยวกับเพลงสดุดี ในช่วง เริ่มต้น อาชีพของลูเทอร์เป็นหนึ่งในช่วงที่เขามีความคิดสร้างสรรค์และผลิตผลงานมากที่สุด สามผลงานที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดถูกตีพิมพ์ในปี 1520: To the Christian Nobility of the German Nation, On the Babylonian Captivity of the Church และ On the Freedom of a Christian | ผลงานที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดของลูเทอร์เผยแพร่เมื่อใด? | {
"text": [
"1520"
],
"answer_start": [
355
]
} |
56f8094aa6d7ea1400e17395 | งานเขียนของลูเทอร์แพร่หลายไปทั่ว ถึงประเทศฝรั่งเศส, อังกฤษ และอิตาลีตั้งแต่ปี 1519 นักเรียน กรูกันเข้ามาที่ Wittenberg เพื่อฟังลูเทอร์พูด เขาเผยแพร่ความเห็นสั้น ๆ เกี่ยวกับชาวกาลาเทียและงานของเขาเกี่ยวกับเพลงสดุดี ในช่วง เริ่มต้น อาชีพของลูเทอร์เป็นหนึ่งในช่วงที่เขามีความคิดสร้างสรรค์และผลิตผลงานมากที่สุด สามผลงานที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดถูกตีพิมพ์ในปี 1520: To the Christian Nobility of the German Nation, On the Babylonian Captivity of the Church และ On the Freedom of a Christian | นอกจากการเผยแพร่หนังสือ To the Christian Nobility of the German Nation และ On the Babylonian Captivity of the Churchแล้ว ผลงานอื่นชิ้นใดที่ลูเทอร์เขียนในปี 1520? | {
"text": [
"On the Freedom of a Christian"
],
"answer_start": [
455
]
} |
56f84485aef2371900625f71 | ในฤดูร้อนปี 1521 ลูเทอร์ขยายเป้าหมายจากความศรัทธาอย่างเช่นการปล่อยตัวและแสวงบุญสู่หลักคำสอนที่เป็นหัวใจของการปฏิบัติศาสนจักร ใน On the Abrogation of the Private Mass เขา ถูกตราหน้าว่าเป็นพวกบูชา ความคิดที่ว่าพิธีมิสซาคือการสังเวย ยืนยันแทนที่ด้วยว่ามันคือ ของขวัญ ที่จะได้รับพร้อมการขอบคุณพระเจ้าโดยกลุ่มคนทั้งหมด เรียงความของเขาในเรื่องคำสารภาพ ไม่ว่าพระสันตปาปามีอำนาจที่ต้องใช้ปฏิเสธการสารภาพแบบบังคับและสนับสนุน การสารภาพและการให้อภัยเป็นการส่วนตัว ตั้งแต่ "คริสเตียนทุกคนคือผู้สารภาพ" ในเดือนพฤศจิกายน ลูเทอร์เขียน The Judgement of Martin Luther on Monastic Vows เขารับรองพระและแม่ชีว่าพวกเขาสามารถ ทำลายคำสาบาน โดยไม่เป็นบาปได้ เพราะคำสาบานเป็นการพยายามที่ผิดทำนองคลองธรรมและเปล่าประโยชน์ในการได้รับการไถ่บาป | ลูเทอร์ขยายการโจมตีของเขาเพื่อเพิ่มหลักคำสอนของคริสตจักรเมื่อใด? | {
"text": [
"ฤดูร้อนปี 1521"
],
"answer_start": [
2
]
} |
56f84485aef2371900625f72 | ในฤดูร้อนปี 1521 ลูเทอร์ขยายเป้าหมายจากความศรัทธาอย่างเช่นการปล่อยตัวและแสวงบุญสู่หลักคำสอนที่เป็นหัวใจของการปฏิบัติศาสนจักร ใน On the Abrogation of the Private Mass เขา ถูกตราหน้าว่าเป็นพวกบูชา ความคิดที่ว่าพิธีมิสซาคือการสังเวย ยืนยันแทนที่ด้วยว่ามันคือ ของขวัญ ที่จะได้รับพร้อมการขอบคุณพระเจ้าโดยกลุ่มคนทั้งหมด เรียงความของเขาในเรื่องคำสารภาพ ไม่ว่าพระสันตปาปามีอำนาจที่ต้องใช้ปฏิเสธการสารภาพแบบบังคับและสนับสนุน การสารภาพและการให้อภัยเป็นการส่วนตัว ตั้งแต่ "คริสเตียนทุกคนคือผู้สารภาพ" ในเดือนพฤศจิกายน ลูเทอร์เขียน The Judgement of Martin Luther on Monastic Vows เขารับรองพระและแม่ชีว่าพวกเขาสามารถ ทำลายคำสาบาน โดยไม่เป็นบาปได้ เพราะคำสาบานเป็นการพยายามที่ผิดทำนองคลองธรรมและเปล่าประโยชน์ในการได้รับการไถ่บาป | ลูเทอร์ได้บรรยายคนจำนวนมากที่ถูกมองเป็นเครื่องสังเวยว่าอย่างไร? | {
"text": [
"ถูกตราหน้าว่าเป็นพวกบูชา"
],
"answer_start": [
170
]
} |
56f84485aef2371900625f73 | ในฤดูร้อนปี 1521 ลูเทอร์ขยายเป้าหมายจากความศรัทธาอย่างเช่นการปล่อยตัวและแสวงบุญสู่หลักคำสอนที่เป็นหัวใจของการปฏิบัติศาสนจักร ใน On the Abrogation of the Private Mass เขา ถูกตราหน้าว่าเป็นพวกบูชา ความคิดที่ว่าพิธีมิสซาคือการสังเวย ยืนยันแทนที่ด้วยว่ามันคือ ของขวัญ ที่จะได้รับพร้อมการขอบคุณพระเจ้าโดยกลุ่มคนทั้งหมด เรียงความของเขาในเรื่องคำสารภาพ ไม่ว่าพระสันตปาปามีอำนาจที่ต้องใช้ปฏิเสธการสารภาพแบบบังคับและสนับสนุน การสารภาพและการให้อภัยเป็นการส่วนตัว ตั้งแต่ "คริสเตียนทุกคนคือผู้สารภาพ" ในเดือนพฤศจิกายน ลูเทอร์เขียน The Judgement of Martin Luther on Monastic Vows เขารับรองพระและแม่ชีว่าพวกเขาสามารถ ทำลายคำสาบาน โดยไม่เป็นบาปได้ เพราะคำสาบานเป็นการพยายามที่ผิดทำนองคลองธรรมและเปล่าประโยชน์ในการได้รับการไถ่บาป | ลูเทอร์เรียกพิธีมิสซาแทนที่การสังเวยว่าอะไร? | {
"text": [
"ของขวัญ"
],
"answer_start": [
256
]
} |
56f84485aef2371900625f74 | ในฤดูร้อนปี 1521 ลูเทอร์ขยายเป้าหมายจากความศรัทธาอย่างเช่นการปล่อยตัวและแสวงบุญสู่หลักคำสอนที่เป็นหัวใจของการปฏิบัติศาสนจักร ใน On the Abrogation of the Private Mass เขา ถูกตราหน้าว่าเป็นพวกบูชา ความคิดที่ว่าพิธีมิสซาคือการสังเวย ยืนยันแทนที่ด้วยว่ามันคือ ของขวัญ ที่จะได้รับพร้อมการขอบคุณพระเจ้าโดยกลุ่มคนทั้งหมด เรียงความของเขาในเรื่องคำสารภาพ ไม่ว่าพระสันตปาปามีอำนาจที่ต้องใช้ปฏิเสธการสารภาพแบบบังคับและสนับสนุน การสารภาพและการให้อภัยเป็นการส่วนตัว ตั้งแต่ "คริสเตียนทุกคนคือผู้สารภาพ" ในเดือนพฤศจิกายน ลูเทอร์เขียน The Judgement of Martin Luther on Monastic Vows เขารับรองพระและแม่ชีว่าพวกเขาสามารถ ทำลายคำสาบาน โดยไม่เป็นบาปได้ เพราะคำสาบานเป็นการพยายามที่ผิดทำนองคลองธรรมและเปล่าประโยชน์ในการได้รับการไถ่บาป | หลังการปฏิเสธการสารภาพแบบบังคับ ลูเทอร์เรียกร้องอะไรอีก? | {
"text": [
"การสารภาพและการให้อภัยเป็นการส่วนตัว"
],
"answer_start": [
416
]
} |
56f84485aef2371900625f75 | ในฤดูร้อนปี 1521 ลูเทอร์ขยายเป้าหมายจากความศรัทธาอย่างเช่นการปล่อยตัวและแสวงบุญสู่หลักคำสอนที่เป็นหัวใจของการปฏิบัติศาสนจักร ใน On the Abrogation of the Private Mass เขา ถูกตราหน้าว่าเป็นพวกบูชา ความคิดที่ว่าพิธีมิสซาคือการสังเวย ยืนยันแทนที่ด้วยว่ามันคือ ของขวัญ ที่จะได้รับพร้อมการขอบคุณพระเจ้าโดยกลุ่มคนทั้งหมด เรียงความของเขาในเรื่องคำสารภาพ ไม่ว่าพระสันตปาปามีอำนาจที่ต้องใช้ปฏิเสธการสารภาพแบบบังคับและสนับสนุน การสารภาพและการให้อภัยเป็นการส่วนตัว ตั้งแต่ "คริสเตียนทุกคนคือผู้สารภาพ" ในเดือนพฤศจิกายน ลูเทอร์เขียน The Judgement of Martin Luther on Monastic Vows เขารับรองพระและแม่ชีว่าพวกเขาสามารถ ทำลายคำสาบาน โดยไม่เป็นบาปได้ เพราะคำสาบานเป็นการพยายามที่ผิดทำนองคลองธรรมและเปล่าประโยชน์ในการได้รับการไถ่บาป | ลูเทอร์บอกอะไรกับพระและแม่ชีเกี่ยวกับคำสาบานของพวกเขาบ้าง? | {
"text": [
"ทำลายคำสาบาน"
],
"answer_start": [
604
]
} |
56f86e91aef2371900626067 | ถูกเผยแพร่ในเวลาที่มีความต้องการเพิ่มมากขึ้นสำหรับ สิ่งพิมพ์ภาษาเยอรมัน งานแปล คัมภีร์ไบเบิล เวอร์ชั่นของลูเทอร์กลายเป็นที่นิยมและมีอิทธิพลอย่างรวดเร็ว เช่นนั้น งานชิ้นนี้เป็นส่วนช่วยสำคัญแก่ วิวัฒนาการของภาษาและวรรณกรรมเยอรมัน ตกแต่งด้วยบันทึกและบทนำโดยลูเทอร์ และด้วยไม้แกะสลักโดย ลูคัส ครานัค ที่มีภาพต่อต้านสมเด็จพระสันตะปาปา หนังสือนี้มีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่คำสอนของลูเทอร์ทั่วทั้งเยอรมนี หนังสือ Luther Bible มีอิทธิพลต่องานแปลอื่น เช่นไบเบิลภาษาอังกฤษของ วิลเลียม ทนเดล (1525 ถัดมา) คัมภีร์ก่อนหน้า King James Bible | อะไรคือสิ่งที่เป็นที่ต้องการในยุคของมาร์ติน ลูเทอร์? | {
"text": [
"สิ่งพิมพ์ภาษาเยอรมัน"
],
"answer_start": [
51
]
} |
56f86e91aef2371900626068 | ถูกเผยแพร่ในเวลาที่มีความต้องการเพิ่มมากขึ้นสำหรับ สิ่งพิมพ์ภาษาเยอรมัน งานแปล คัมภีร์ไบเบิล เวอร์ชั่นของลูเทอร์กลายเป็นที่นิยมและมีอิทธิพลอย่างรวดเร็ว เช่นนั้น งานชิ้นนี้เป็นส่วนช่วยสำคัญแก่ วิวัฒนาการของภาษาและวรรณกรรมเยอรมัน ตกแต่งด้วยบันทึกและบทนำโดยลูเทอร์ และด้วยไม้แกะสลักโดย ลูคัส ครานัค ที่มีภาพต่อต้านสมเด็จพระสันตะปาปา หนังสือนี้มีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่คำสอนของลูเทอร์ทั่วทั้งเยอรมนี หนังสือ Luther Bible มีอิทธิพลต่องานแปลอื่น เช่นไบเบิลภาษาอังกฤษของ วิลเลียม ทนเดล (1525 ถัดมา) คัมภีร์ก่อนหน้า King James Bible | ผลงานชิ้นใดของลูเทอร์ที่ได้รับความนิยม? | {
"text": [
"คัมภีร์ไบเบิล"
],
"answer_start": [
79
]
} |
56f86e91aef2371900626069 | ถูกเผยแพร่ในเวลาที่มีความต้องการเพิ่มมากขึ้นสำหรับ สิ่งพิมพ์ภาษาเยอรมัน งานแปล คัมภีร์ไบเบิล เวอร์ชั่นของลูเทอร์กลายเป็นที่นิยมและมีอิทธิพลอย่างรวดเร็ว เช่นนั้น งานชิ้นนี้เป็นส่วนช่วยสำคัญแก่ วิวัฒนาการของภาษาและวรรณกรรมเยอรมัน ตกแต่งด้วยบันทึกและบทนำโดยลูเทอร์ และด้วยไม้แกะสลักโดย ลูคัส ครานัค ที่มีภาพต่อต้านสมเด็จพระสันตะปาปา หนังสือนี้มีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่คำสอนของลูเทอร์ทั่วทั้งเยอรมนี หนังสือ Luther Bible มีอิทธิพลต่องานแปลอื่น เช่นไบเบิลภาษาอังกฤษของ วิลเลียม ทนเดล (1525 ถัดมา) คัมภีร์ก่อนหน้า King James Bible | ความนิยมของงานแปลของลูเทอร์นำไปสู่อะไร? | {
"text": [
"วิวัฒนาการของภาษาและวรรณกรรมเยอรมัน"
],
"answer_start": [
192
]
} |
56f86e91aef237190062606a | ถูกเผยแพร่ในเวลาที่มีความต้องการเพิ่มมากขึ้นสำหรับ สิ่งพิมพ์ภาษาเยอรมัน งานแปล คัมภีร์ไบเบิล เวอร์ชั่นของลูเทอร์กลายเป็นที่นิยมและมีอิทธิพลอย่างรวดเร็ว เช่นนั้น งานชิ้นนี้เป็นส่วนช่วยสำคัญแก่ วิวัฒนาการของภาษาและวรรณกรรมเยอรมัน ตกแต่งด้วยบันทึกและบทนำโดยลูเทอร์ และด้วยไม้แกะสลักโดย ลูคัส ครานัค ที่มีภาพต่อต้านสมเด็จพระสันตะปาปา หนังสือนี้มีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่คำสอนของลูเทอร์ทั่วทั้งเยอรมนี หนังสือ Luther Bible มีอิทธิพลต่องานแปลอื่น เช่นไบเบิลภาษาอังกฤษของ วิลเลียม ทนเดล (1525 ถัดมา) คัมภีร์ก่อนหน้า King James Bible | ศิลปินท่านใดที่ทำงานแกะสลักไม้ให้กับไบเบิลของลูเทอร์? | {
"text": [
"ลูคัส ครานัค"
],
"answer_start": [
283
]
} |
56f86e91aef237190062606b | ถูกเผยแพร่ในเวลาที่มีความต้องการเพิ่มมากขึ้นสำหรับ สิ่งพิมพ์ภาษาเยอรมัน งานแปล คัมภีร์ไบเบิล เวอร์ชั่นของลูเทอร์กลายเป็นที่นิยมและมีอิทธิพลอย่างรวดเร็ว เช่นนั้น งานชิ้นนี้เป็นส่วนช่วยสำคัญแก่ วิวัฒนาการของภาษาและวรรณกรรมเยอรมัน ตกแต่งด้วยบันทึกและบทนำโดยลูเทอร์ และด้วยไม้แกะสลักโดย ลูคัส ครานัค ที่มีภาพต่อต้านสมเด็จพระสันตะปาปา หนังสือนี้มีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่คำสอนของลูเทอร์ทั่วทั้งเยอรมนี หนังสือ Luther Bible มีอิทธิพลต่องานแปลอื่น เช่นไบเบิลภาษาอังกฤษของ วิลเลียม ทนเดล (1525 ถัดมา) คัมภีร์ก่อนหน้า King James Bible | ผลงานแปลไบเบิลของใครที่ได้รับอิทธิพลจาก Luther Bible? | {
"text": [
"วิลเลียม ทนเดล"
],
"answer_start": [
463
]
} |
56f8720eaef237190062608f | เพลงสวดของลูเทอร์ปรากฎบ่อยโดยเฉพาะ เหตุการณ์ชีวิตของเขา และการปฏิรูปที่เปิดเผย พฤติกรรมนี้เริ่มด้วยการที่เขาทราบเรื่องการประหารของโยฮันน์ เอชและเฮนริช โว คนกลุ่มแรกที่ถูกฆ่าด้วยเรื่องศาสนาโดยโบสถ์โรมันคาทอลิก เพราะมุมมองแบบลูเทอร์แรน กระตุ้นลูเทอร์ให้เขียนเพลงสวด"Ein neues Lied wir heben an"("เพลงใหม่เราผงาด") ซึ่งเป็นที่รู้จักโดยทั่วไปในภาษาอังกฤษโดยการแปลของ จอห์น ซี เมสเซนเจอร์ ตามชื่อเพลงและประโยคแรก "Flung to the Heedless Winds" และร้องให้กับทำนอง Ibstone ที่ถูกแต่งในปี 1875 โดยมาเรีย ซี ทิดดีแมน | อะไรทำให้ลูเทอร์เขียนเพลงสวด? | {
"text": [
"เหตุการณ์ชีวิตของเขา"
],
"answer_start": [
35
]
} |
56f8720eaef2371900626090 | เพลงสวดของลูเทอร์ปรากฎบ่อยโดยเฉพาะ เหตุการณ์ชีวิตของเขา และการปฏิรูปที่เปิดเผย พฤติกรรมนี้เริ่มด้วยการที่เขาทราบเรื่องการประหารของโยฮันน์ เอชและเฮนริช โว คนกลุ่มแรกที่ถูกฆ่าด้วยเรื่องศาสนาโดยโบสถ์โรมันคาทอลิก เพราะมุมมองแบบลูเทอร์แรน กระตุ้นลูเทอร์ให้เขียนเพลงสวด"Ein neues Lied wir heben an"("เพลงใหม่เราผงาด") ซึ่งเป็นที่รู้จักโดยทั่วไปในภาษาอังกฤษโดยการแปลของ จอห์น ซี เมสเซนเจอร์ ตามชื่อเพลงและประโยคแรก "Flung to the Heedless Winds" และร้องให้กับทำนอง Ibstone ที่ถูกแต่งในปี 1875 โดยมาเรีย ซี ทิดดีแมน | ทำไมโยฮันน์ เอชและเฮนริช โวถูกประหารโดยโบสถ์คาทอลิก? | {
"text": [
"เพราะมุมมองแบบลูเทอร์แรน"
],
"answer_start": [
209
]
} |
56f8720eaef2371900626091 | เพลงสวดของลูเทอร์ปรากฎบ่อยโดยเฉพาะ เหตุการณ์ชีวิตของเขา และการปฏิรูปที่เปิดเผย พฤติกรรมนี้เริ่มด้วยการที่เขาทราบเรื่องการประหารของโยฮันน์ เอชและเฮนริช โว คนกลุ่มแรกที่ถูกฆ่าด้วยเรื่องศาสนาโดยโบสถ์โรมันคาทอลิก เพราะมุมมองแบบลูเทอร์แรน กระตุ้นลูเทอร์ให้เขียนเพลงสวด"Ein neues Lied wir heben an"("เพลงใหม่เราผงาด") ซึ่งเป็นที่รู้จักโดยทั่วไปในภาษาอังกฤษโดยการแปลของ จอห์น ซี เมสเซนเจอร์ ตามชื่อเพลงและประโยคแรก "Flung to the Heedless Winds" และร้องให้กับทำนอง Ibstone ที่ถูกแต่งในปี 1875 โดยมาเรีย ซี ทิดดีแมน | เพลงสวดอะไรที่ลูเทอร์แต่งหลังเอชและโวถูกฆ่าด้วยเรื่องศาสนา? | {
"text": [
"Ein neues Lied wir heben an"
],
"answer_start": [
264
]
} |
56f8720eaef2371900626092 | เพลงสวดของลูเทอร์ปรากฎบ่อยโดยเฉพาะ เหตุการณ์ชีวิตของเขา และการปฏิรูปที่เปิดเผย พฤติกรรมนี้เริ่มด้วยการที่เขาทราบเรื่องการประหารของโยฮันน์ เอชและเฮนริช โว คนกลุ่มแรกที่ถูกฆ่าด้วยเรื่องศาสนาโดยโบสถ์โรมันคาทอลิก เพราะมุมมองแบบลูเทอร์แรน กระตุ้นลูเทอร์ให้เขียนเพลงสวด"Ein neues Lied wir heben an"("เพลงใหม่เราผงาด") ซึ่งเป็นที่รู้จักโดยทั่วไปในภาษาอังกฤษโดยการแปลของ จอห์น ซี เมสเซนเจอร์ ตามชื่อเพลงและประโยคแรก "Flung to the Heedless Winds" และร้องให้กับทำนอง Ibstone ที่ถูกแต่งในปี 1875 โดยมาเรีย ซี ทิดดีแมน | ใครคือผู้แปลเพลงสวดนี้เป็นภาษาอังกฤษ? | {
"text": [
"จอห์น ซี เมสเซนเจอร์"
],
"answer_start": [
363
]
} |
56f8720eaef2371900626093 | เพลงสวดของลูเทอร์ปรากฎบ่อยโดยเฉพาะ เหตุการณ์ชีวิตของเขา และการปฏิรูปที่เปิดเผย พฤติกรรมนี้เริ่มด้วยการที่เขาทราบเรื่องการประหารของโยฮันน์ เอชและเฮนริช โว คนกลุ่มแรกที่ถูกฆ่าด้วยเรื่องศาสนาโดยโบสถ์โรมันคาทอลิก เพราะมุมมองแบบลูเทอร์แรน กระตุ้นลูเทอร์ให้เขียนเพลงสวด"Ein neues Lied wir heben an"("เพลงใหม่เราผงาด") ซึ่งเป็นที่รู้จักโดยทั่วไปในภาษาอังกฤษโดยการแปลของ จอห์น ซี เมสเซนเจอร์ ตามชื่อเพลงและประโยคแรก "Flung to the Heedless Winds" และร้องให้กับทำนอง Ibstone ที่ถูกแต่งในปี 1875 โดยมาเรีย ซี ทิดดีแมน | เพลงสวดนี้เป็นที่รู้จักในชื่อภาษาอังกฤษว่าอะไร? | {
"text": [
"Flung to the Heedless Winds"
],
"answer_start": [
409
]
} |
56f8ca289b226e1400dd1007 | กระดาษชิ้นหนึ่งถูกพบในภายหลังซึ่งลูเทอร์ได้เขียน คำพูดสุดท้ายของเขา ไว้ คำพูดนั้นเขียนเป็นภาษาละติน นอกเหนือจาก "We are beggars," ซึ่งเขียนเป็นภาษาเยอรมัน | อะไรคือสิ่งที่ถูกค้นพบในภายหลังที่เขียนโดยลูเทอร์? | {
"text": [
"คำพูดสุดท้ายของเขา"
],
"answer_start": [
49
]
} |
56f8ca289b226e1400dd1008 | กระดาษชิ้นหนึ่งถูกพบในภายหลังซึ่งลูเทอร์ได้เขียน คำพูดสุดท้ายของเขา ไว้ คำพูดนั้นเขียนเป็นภาษาละติน นอกเหนือจาก "We are beggars," ซึ่งเขียนเป็นภาษาเยอรมัน | คำพูดเกือบทั้งหมดถูกเขียนในภาษาใด? | {
"text": [
"ภาษาละติน"
],
"answer_start": [
90
]
} |
56f8ca289b226e1400dd1009 | กระดาษชิ้นหนึ่งถูกพบในภายหลังซึ่งลูเทอร์ได้เขียน คำพูดสุดท้ายของเขา ไว้ คำพูดนั้นเขียนเป็นภาษาละติน นอกเหนือจาก "We are beggars," ซึ่งเขียนเป็นภาษาเยอรมัน | ส่วนใดของคำพูดสุดท้ายของลูเทอร์ที่เป็นภาษาเยอรมัน? | {
"text": [
"\"We are beggars,\""
],
"answer_start": [
112
]
} |